รีวิวFerdinand ฉันจะมารีวิวหนังการ์ตูนที่เนื่องราวเบาสมองออกแนวอบอุ่น ชื่อเรื่องว่า เฟอร์ดินานด์ เป็นเรื่องราวของกระทิงร่างยักษ์ที่ภายนอกดูดุร้ายน่ากลัวนั้น แต่แท้ที่จริงแล้วจิตใจอ่อนโยนน่ารัก เพียง

แต่จะทำอย่างไรเมื่อมันจะต้องเผชิญหน้ากับอคติของคนภายนอกที่มองเข้ามาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แอนิเมชันอีกเรื่องที่น่าจับตามอง

ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2017 ผลงานของบลูสกาย สตูดิโอ ที่เคยสรรค์สร้างแอนิเมชันดังอย่าง Ice Age มาแล้วนั้นเอง เรามาดูกันว่าเรื่องราวของเรื่องนี้จะทำให้คนดูรู้สึกสนุกสนานมากแค่ไหน ถ้าใครอยากจะรับชมหนังฟรี ไม่เสียค่าบริการ สามารถเข้ารับชมได้เลยที่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวFerdinand หนังการ์ตูน แอนิเมชันฟีลกู้ดฮาท้องแข็งครื้นเครงทั้งเรื่อง

รีวิวFerdinand หนังการ์ตูน แอนิเมชันฟีลกู้ดฮาท้องแข็งครื้นเครงทั้งเรื่อง

รีวิวFerdinand จากค่าย Blue Sky

โดยที่มา Ferdinand เรื่องราวของเจ้ากระทิงใจดีตัวนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังสือเรื่อง The Story of Ferdinand ของ มันโร ลีฟ และ โรเบิร์ต ลอว์สัน

ในขณะที่อีกหนึ่งไฮไลท์อยู่ที่ จอห์น ซีน่า อดีตซุปเปอร์สตาร์นักมวยปล้ำ WWE ได้มาพากย์เป็นเฟอร์ดินานด์ตอนโตด้วย

เรื่องนี้เป็นแอนิเมชั่นจากค่าย Blue Sky ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมชื่อดังอย่าง The Story of Ferdinand เมื่อปี 1936 โดยนักเขียน มันโร ลีฟ และนักวาดภาพประกอบ โรเบิร์ต ลอว์สัน บอกเล่าเรื่องราวของวัวกระทิงเฟอร์ดินาน ให้เสียงพากย์โดย จอห์น ซีนา

ที่เกิดในค่ายฝึกวัวกระทิง หลังจากที่พ่อของเขาถูกนำตัวไปยังสถานประลองวัวกระทิงและมาธาดอร์ และไม่เคยได้หวนคืนกลับมายังสถานที่แห่งนี้อีก เฟอร์ดินานในวัยเด็กจึงหลบหนีออกจากค่ายแห่งนี้

ฉันรู้นะว่าหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้จักค่ายนี้ Blue Sky เท่าไหร่ เพราะงั้นฉันเลยอยากให้ทุกคนรู้จักเอาไว้ก่อนที่จะไปชมผลงานของเขา ซึ่งทาง บลูสกาย สตูดิโอส์ เป็นสตูดิโอส์สร้างภาพยนตร์การ์ตูนอเมริกันจากคอมพิวเตอร์แอนิเมชัน สนใจที่จะรับชมเรื่องนี้ก็สามารถเข้มได้เลยที่ ดูFerdinand

และเชี่ยวชาญด้านความละเอียดสูง ตั้งอยู่ที่เมืองกรีนวิช รัฐคอนเนตทิคัตสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัททเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ และบลูสกาย สตูดิโอส์ ก่อตั้งขึ้นเมือกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1987

รีวิวFerdinand จากค่าย Blue Sky

โดย คริส เวดจ์ และ คาร์ล ลุดวิก และเพื่อนร่วมงานอีกทั้ง 4 คน ซึ่งเคยทำงานภาพยนตร์เรื่อง ทรอน จากดิสนีย์ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1997 ทเวนตีท์เซนจูรีฟอกซ์ได้เข้าซื้อกิจการของบลูสกายสตูดิโอส์

แล้วสร้างภาพยนตร์ Ferdinand เรื่องย่อ ที่ต้องใช้ซอฟต์แวร์เอฟเฟ็คในการผลิต ได้แก่เรื่อง ดิ เอ็กซ์ ไฟล์ส และ เบลด พันธุ์ฆ่าอมตะ และ อาร์มาเก็ดดอน วันโลกาวินาศ และ ไททานิค ต่อมา คริส เวดจ์ เริ่มตระหนักถึงความสำเร็จอันยาวไกล

เขาจึงเริ่มผลิตภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องสั่นเรื่องแรก มีชื่อมา Bunny แล้วได้รับรางวัล รางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องสั่น ทางบลูสกายเริ่มผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องยาวใน ค.ศ. 2002 คือเรื่อง Ice Age

และประสบความสำเร็จทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล รางวัลออสการ์ ทำให้บลูสกายได้รับการยอมรับเป็นอีกหนึ่งสตูดิโอส์ที่สร้างภาพยนตร์แอนิเมชันดีที่สุดเหมือนกับ ดรีมเวิร์กสแอนิเมชัน และ พิกซาร์

แล้วบลูสกาย สตูดิโอส์ ได้ย้ายสำนักงานจากเมืองไวต์เพลนส์ รัฐนิวยอร์ก ไปยังเมืองกรีนวิช รัฐคอนเนตทิคัต เมื่อวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2009 สามารถติดตามการรีวิวการ์ตูนของเราเรื่องอื่น ๆ ได้เลยที่ รีวิวการ์ตูนฝรั่ง

นักเขียนของ Ferdinand

ที่นี้เรามาทำความรู้จักนักเขียนของเรื่องนี้ Ferdinand นักเขียน บ้างนะ คือ มันโร ลีฟ หรือ วิลเบอร์ มอนโร ลีฟ ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2448 ถึง 21 ธันวาคม พ.ศ. 2519 เป็นนักเขียนวรรณกรรมเด็กชาวอเมริกันที่เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือเกือบ 40 เล่มตลอดอาชีพ 40 ปีของเขา

และเขาเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดจาก The Story of Ferdinand ในปี 1936 หนังสือคลาสสิกสำหรับเด็กที่เขาเขียนบนแผ่นกระดาษสีเหลืองในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ถูกตราหน้าว่าเป็นการโค่นล้ม ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ

และเขาเกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2448 เป็นบุตรของ Charles W Leaf และ Emma India Leaf ในเมืองแฮมิลตัน รัฐแมริแลนด์ ลีฟมีพี่สาวชื่ออลิซาเบธ ดับเบิลยู ลีฟ ในปี พ.ศ. 2453 ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดีซี

การ์ตูน เฟอร์ดินานด์ ซึ่งบิดาของเขาได้สร้างอาชีพของเขาในฐานะช่างเครื่องที่สำนักงานการพิมพ์ของรัฐบาล ลีฟเรียนที่มหาวิทยาลัยแมรีแลนด์ซึ่งเขาเคยเล่นลาครอสและทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกของชั้นเรียน จบการศึกษาในปี พ.ศ. 2470

เขาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับมาร์กาเร็ต โป๊ป ภรรยาของเขาในยุโรปในปี พ.ศ. 2471 เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวรรณคดีอังกฤษจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี พ.ศ. 2474

นักเขียนของ Ferdinand

และแถมเขาสอนภาษาอังกฤษระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเบลมอนต์ฮิลล์ในบอสตันในปี พ.ศ. 2472 จากนั้นทำงานเป็นบรรณาธิการกับสำนักพิมพ์ Frederick A. Stokes Company ลีฟเคยให้ความเห็นไว้ว่า

ในช่วงต้นของอาชีพการเขียนของฉัน ฉันตระหนักดีว่าถ้าใครพบความจริงบางอย่างที่ควรค่าแก่การบอกเล่า พวกเขาควรจะบอกกับเยาวชนในแง่ที่พวกเขาเข้าใจได้

เฟอร์ดินานด์ นักเขียน และเขาเขียนเรื่อง The Story of Ferdinand ให้เพื่อนนักวาดภาพประกอบ Robert Lawson เรื่องราวที่ติดตามวัวผู้อ่อนโยนในชนบทของสเปนที่ชอบดมกลิ่นดอกไม้มากกว่าการสู้วัวกระทิง

ซึ่งมันก่อให้เกิดความขัดแย้งอย่างมากเพราะบางคนมองว่าเฟอร์ดินานด์เป็นสัญลักษณ์แห่งความสงบ ถูกแบนในสเปนและเผาเป็นโฆษณาชวนเชื่อในนาซีเยอรมนี

ในหนังสือเล่มนี้มีการแปลต่างประเทศมากกว่า 60 ครั้งและไม่เคยขาดการพิมพ์ เรื่องนี้ได้รับการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ของ Walt Disney ซึ่งได้รับรางวัลออสการ์ในปี 1938

การทำงานร่วมกันครั้งที่สองของลีฟและลอว์สัน วี กิลลิส เกี่ยวกับเด็กชายที่อาศัยอยู่ในสกอตแลนด์ซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างครอบครัวพ่อของเขาในที่ราบสูงและแม่ของเขาในที่ราบลุ่ม ถูกอ้างถึงในปี 1939 หนังสือเกียรติยศ Caldecott

ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และ 1940 Leaf ได้เขียนบทความปกติสำหรับนิตยสาร The American หัวข้อ Streamlined Samples of the World’s Best Stories โดยเสนอหน้าเดียว ตลกขบขัน ย่อเนื้อหาของ Ivanhoe และ Robinson Crusoe, Romeo and Juliet และอื่น ๆ อีกด้วย

นักวาดภาพของ Ferdinand

มาต่อที่ทำความรู้จักกับนักวาดภาพของเรื่องนี้ Ferdinand นักวาดภาพ คือ โรเบิร์ต ลอว์สัน ตั่งแต่ในวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2435 ถึง 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2500 เขาเป็นนักเขียนและนักวาดภาพประกอบหนังสือเด็กชาวอเมริกัน

และเขาได้รับรางวัล Caldecott Medal จากภาพประกอบเรื่อง They Were Strong and Good ในปี 1941 และรางวัล Newbery สำหรับเรื่องสั้นเรื่อง Rabbit Hill ในปี 1945 และลอว์สันเกิดในนิวยอร์กซิตี้ ใช้ชีวิตในวัยเด็กที่เมืองมอนต์แคลร์ รัฐนิวเจอร์ซีย์

ในหลังจากเรียนมัธยมปลาย เขาเรียนศิลปะเป็นเวลาสามปีภายใต้นักวาดภาพประกอบ Howard Giles เป็นผู้สนับสนุนเรื่องความสมมาตรแบบไดนามิกตามที่ Jay Hambidge คิดขึ้น ที่ New York School of Fine and Applied Art

และในปัจจุบันคือ Parsons School of Design และแต่งงานกับเพื่อนศิลปินและนักวาดภาพประกอบ Marie เอบรามส์ในปี พ.ศ. 2465 เป็นอาชีพนักวาดภาพประกอบของเขาเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2457

การ์ตูน Ferdinand เมื่อภาพประกอบบทกวีเกี่ยวกับการรุกรานเบลเยียมของเขาได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสาร Harper’s Weekly เขาตีพิมพ์ในนิตยสารอื่น ๆ รวมถึง Ladies Home Journal และ นิตยสาร Everybody’s และ นิตยสาร Century และ Vogue และ Designer

และมีสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับเขาก็คือ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ลอว์สันเป็นสมาชิกของหน่วยพรางตัวแรกของกองทัพสหรัฐฯ American Camouflage Corps

ซึ่งเขารับใช้ในฝรั่งเศสร่วมกับเพื่อนศิลปินอย่าง Barry Faulkner และ Sherry Edmundson Fry และ William Twigg Smith และ Kerr Eby

ในอัตชีวประวัติของเขา ฟอล์กเนอร์เล่าว่าลอว์สันมี ความรู้สึกเพ้อฝันและอารมณ์ขัน ที่น่าทึ่ง ซึ่งทำให้เขามีค่าเป็นพิเศษเมื่อทหารพรางแสดงละครเพลงให้กับเด็ก ๆ ของสตรีชาวฝรั่งเศสที่สวมชุดลายพรางร่วมกับพวกเขา ฟอล์คเนอร์ ในปี1957

นักวาดภาพของ Ferdinand

และซึ่งในเรื่องราวของ เฟอร์ดินานด์ นักวาดภาพ ซึ่งลอว์สันเป็นภาพประกอบ ดัดแปลงเป็นเฟอร์ดินานด์เดอะบูลโดยวอลต์ ดิสนีย์ โปรดักชันส์ในปี 2481 Ben and Me An Astonishing Life of Benjamin Franklin โดย His Good Mouse Amos ดัดแปลงเป็นแอนิเมชั่นขนาดสั้น Ben and Me ในปี 2496 โดยวอลต์ ดิสนีย์โปรดักชั่น

ทางลอว์สันเป็นนักเขียนที่มีไหวพริบและสร้างสรรค์ และนิยายสำหรับเด็กของเขาก็มีส่วนร่วมสำหรับผู้ใหญ่เช่นกัน หนึ่งในรูปแบบการสร้างสรรค์ของเขาคือแนวคิดเกี่ยวกับชีวิตของคนๆ หนึ่งเมื่อมองผ่านสายตาของสัตว์คู่หู

ซึ่งเป็นแนวทางที่เขาตระหนักเป็นครั้งแรกใน Ben and Me หนังสือเล่มต่อมาบางเล่มของเขาใช้อุปกรณ์เดียวกัน ซึ่งเข้ากันได้กับสไตล์การเขียนภาพประกอบของเขา กับบุคคลอื่น ๆ เช่น คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ฉันค้นพบโคลัมบัส

และพอล รีเวียร์ คุณรีเวียร์และฉัน แมวของกัปตันคิดด์ ซึ่งเขาทั้งเขียนและวาดภาพประกอบ บรรยายโดยแมวชื่อแมคเดอร์มอต ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของการเดินทางที่โชคร้ายของโจรสลัดชื่อดัง

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้กล้าหาญ คนซื่อตรง ซื่อสัตย์ รังแกไก่ ถูกเพื่อนหักหลังและตกทุกข์ได้ยากจากลูกหลาน ไหวพริบทางศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ของเขาสามารถเห็นได้ใน The Story of Ferdinand the Bull ซึ่งเขาได้แสดงภาพต้นคอร์กเป็นต้นไม้ที่มีจุกเป็นผลไม้ พร้อมที่จะเก็บและใส่ลงในขวด

เรื่องย่อของ Ferdinand

มาหลังจากที่ฉันเขียนเกี่ยวกับทางผู้สร้างเรื่องนี้ เฟอร์ดินานด์ จนมืองิก ฉันจะเข้าสู้เรื่องราวของเรื่องนี้สักทีซึ่งเรื่องนี้เป็นถ่ายทอดเรื่องราวของกระทิงยักษ์ที่มีใจกล้าหาญ ซึ่งบอกได้เลยว่าเรื่องนี้นั้นถ่ายทอดเรื่องราวของเจ้ากระทิงน้อยตัวหนึ่งที่ชื่อ เฟอร์ดินานด์ ซึ่งเติบโตมาในฟาร์มเลี้ยงและมักจะถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อน ๆ วัวตัวอื่น ๆ

แต่พ่อของเขานั้นเป็นวัวกระทิงที่มีความฝันจะเอาชนะมาทาดอร์ให้ได้ สวนทางกับเฟอร์ดินานด์ที่มีนิสัยอ่อนโยน และชื่นชอบกลิ่นของดอกไม้เป็นที่สุด จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง กระทิงหนุ่มน้อยก็จับผลัดจับผลูได้หลบหนีออกมาจากฟาร์มแห่งนั้น

จนกระทั่งมาพบกับครอบครัวใจดีที่เลี้ยงดูเฟอร์ดินานด์เป็นอย่างดีจนเติบใหญ่เป็นกระทิงยักษ์บิ๊กเบิ้ม อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่มันได้ชื่อว่าเป็นวัวกระทิงแล้ว สำหรับมนุษย์ก็มองมันเป็นสัตว์ดุร้าย จนต้องไล่ตามจับเฟอร์ดินานด์ไปอยู่ฟาร์มวัวที่เขาเติบโตมาอีกครั้ง

โจทย์สำคัญของ รีวิวเฟอร์ดินานด์ คือทำอย่างไรมันถึงจะกลับไปหาครอบครัวที่พลัดพรากได้ ในฟาร์มแห่งนั้น มันต้องพบกับสหายเก่าที่เคยรังแกมันมาก่อน และไหนจะต้องรวมทีมกับบรรดาสรรพสัตว์เพื่อหนีออกจากฟาร์มนรกแห่งนั้น

เพื่อหลุดพ้นจากการถูกเลือกไปต่อสู้กับมาทาดอร์ ซึ่งเมื่อเฟอร์ดินานด์เติบโตขึ้นจึงได้รู้ว่า หากไม่สู้ก็ต้องไปอยู่โรงเชือด เมื่อชะตาลิขิตให้เกิดมาเป็นวัว มันรู้ดีว่ามันต้องงัดความกล้าหาญในตัวออกมาเพื่อเอาตัวรอดพร้อมกับเพื่อน ๆ เหล่านี้

ต้องบอกว่ามีสัตว์ที่นอกเหนือจากเฟอร์ดินานด์ คือเหล่าบรรดาสรรพสัตว์ที่มามีบทบาทในการหลบหนีนั้นก็ออกแบบแคแร็คเตอร์ได้น่ารักมาก ทุกตัวมีเอกลักษณ์ที่เห็นแล้วจำได้ เพลงประกอบดีและภาพสวย จังหวะของมุกต่าง ๆ

เรื่องย่อของ Ferdinand

ในแอนิเมชันเรื่องนี้ เฟอร์ดินานด์ เรื่องย่อ เรียกเสียงฮาได้เป็นระยะ จังหวะดี ขยี้เป็น แล้ววางกรอบหลวม ๆ ให้บรรดาสัตว์เหล่านี้ได้โชว์สกิลเวอร์วังในเกณฑ์ที่กำลังดี มีชอตฮาแบบนันสต็อปอย่างการแบทเทิลกันอย่างกับหลุดมาจากหนัง Step Up เก็บตัวละคร

แต่ละตัวเอามาใช้เป็นสีสันในแต่ละฉากได้ตลอด เรียกว่าดูแอนิเมชันเรื่องนี้แล้วทั้งฮา ทั้งลุ้น ทั้งดราม่าแบบซึ้ง ๆ ไม่มีพิษมีภัยอย่างแท้จริงเลย และบอกตรง ๆ เลยว่าโชคดีของเฟอร์ดินานที่เขาได้ไปพบกับเด็กหญิงลูกสาวเจ้าของฟาร์มดอกไม้

เฟอร์ดินานได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เขาเติบโตมาด้วยความรักความอบอุ่นและแนวคิดที่ว่า เราไม่จำเป็นที่จะต้องตอบโต้คนรอบข้างด้วยความรุนแรง

แต่มองคนอื่นด้วยความรักและเอื้ออารี ช่วงเวลาที่ผันผ่านไปเฟอร์ดินานเติบโตกลายเป็นกระทิงหนุ่ม ด้วยรูปร่างที่เติบใหญ่ส่งผลให้เขาถูกห้ามไม่ให้ไปร่วมเทศกาลงานดอกไม้ประจำปีของเมืองนี้

Ferdinand ตัวละคร ด้วยความดื้อรั้นเมื่อเฟอร์ดินานเดินทางไปยังเทศกาลดังกล่าวจนเกิดความวุ่นวาย ส่งผลให้เขาโดนส่งตัวกลับไปยังค่ายกระทิงเมื่อตอนยังเด็กและทำให้เฟอร์ดินานต้องพบกับมิตรสหายเก่า รวมไปถึงเพื่อนใหม่

แต่การมาเยือนของเอล ปริเมโร นักสู้วัวกระทิงผู้ยิ่งใหญ่กำลังมองหาวัวกระทิงที่เปี่ยมความสามารถที่จะเข้าไปต่อสู้ในสนามการแข่งขัน ทำให้เฟอร์ดินานต้องตกที่นั่งลำบาก

ตัวละครอย่างเฟอร์ดินานนั้น คือตัวละครประเภทบุคคลที่เติบโตมาด้วยรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขาม แต่จิตใจและเป้าหมายในชีวิตเขานั้นสวนทางกับสภาพแวดล้อม

วัวกระทิงที่ถูกตั้งค่านิยมที่ว่าจะต้องใช้ความรุนแรงในการต่อสู้ ฟาดฟันเพื่อเอาชนะ แต่เฟอร์ดินานไม่ใช่สิ่งมีชีวิตแบบนั้น เขามีจิตใจโอบอ้อมอารี อ่อนโยนและอยากจะผูกมิตรกับมนุษย์มากกว่าจะต่อสู้ ห้ำหั่นกัน

รีวิวFerdinand สิ่งที่ประทับใจ

เอาล่ะที่นี้ฉันอยากจะเขียนถึงสิ่งที่ประทับใจในเรื่องนี้ เฟอร์ดินานด์ กระทิง มาก ๆ นอกจากความน่ารักและเสียงฮาแล้ว ยังเป็นเรื่องข้อคิดเกี่ยวกับการตัดสินกันที่ภายนอก มิตรภาพ ความเมตตาที่ส่งผ่านมาถึงมนุษย์ที่จิตใจโหดร้าย

ถึงแม้มันจะเป็นวัวที่ฟ้าลิขิตว่าจะต้องมีชีวิตที่น่าเวทนาแค่ไหน แต่เฟอร์ดินานด์ก็ลุกขึ้นมาสู้อย่างกล้าหาญ หนังเดินตามเส้นเรื่องที่เดาได้ และมีไคลแม็กซ์ที่ต้องแอบลุ้นจนหยุดหายใจ

และสำหรับใครที่ชอบทานเนื้อดูเรื่องนี้แล้วอาจจะรู้จักละเว้นมันมากขึ้นในชีวิตจริง อันที่จริง Ferdinand มันมีประเด็นที่เล่นต่อในเรื่องการเสพสุขของมนุษย์บนความทรมานของสัตว์ด้วย แต่มันเลืือกจะเล่าผ่าน ๆ

และเน้นที่ความบันเทิงกันให้สุดทางมากกว่า เอาเป็นว่าสุดท้ายแล้วมันเป็นหนังการ์ตูนโลกสวยที่นอกจากเด็ก ๆ แล้วผู้ใหญ่ก็ดูได้และเอนจอยไปกับมันได้เพลิน ๆ อีกด้วย

รีวิวFerdinand สิ่งที่ประทับใจ

และถึงแม้ว่าเรื่องนี้ เฟอร์ดินานด์ สปอย จะเป็นแอนิเมชั่นสำหรับครอบครัว แต่หนังก็ยังใส่ประเด็นแรงๆ อาทิ ความตายของพ่อ เข้ามาเป็นจุดขับเคลื่อนของหนัง

ซึ่งถ้าหากเทียบเคียงกับแอนิเมชั่นในยุคก่อนอย่าง Bambi ของค่ายดิสนีย์ ก็เป็นจุดสะเทือนใจเด็ก ๆ ได้ไม่น้อย แถมตัวหนังเองยังมีช่วงเวลาที่มาพร้อมกับแนวคิดที่ว่า หากคุณเป็นคนที่อ่อนแอ จุดจบของคุณก็คือความตาย หรือโรงฆ่าสัตว์ เช่นเดียวกัน

และฉันกลับรู้สึกว่าพอเมื่อหนัง Ferdinand กระทิง กำหนดจุดพลิกผันมาด้วยความตาย แต่หนังก็ยังเลือกทำให้คนดู ในทุกช่วงวัย มองเห็นว่า การคลี่คลายปัญหาที่แท้จริงนั้น

เป็นความตายนั้นอยู่รอบตัวเราอยู่แล้ว เพียงแต่เราจะโอบรับกับปัญหานั้นด้วยวิธีการเช่นไร เฟอร์ดินานเป็นตัวละครที่หลีกหนีปัญหาที่เขาไม่อยากเจอมาตลอดชีวิต

แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลือกที่จะใช้ความโอบอ้อมอารี จ้องหน้ากับความตาย และปล่อยให้โลกตัดสินว่า ท้ายที่สุดแล้วเขามีคุณค่าเพียงพอที่จะอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปหรือไม่

Ferdinand เป็นภาพยนตร์โลกสวย

และถ้ามีใครที่อยากจะฉันพูดตรง ๆ เลยก็คือ เรื่องนี้ การ์ตูนวัวกระทิงเต็มเรื่อง เป็นภาพยนตร์โลกสวย ที่ช่วยเติมเต็มจิตใจที่แห้งแล้งของผู้คนในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

เพราะไม่ว่าจะเป็นการที่สัตว์จะสามารถทำอะไรเกินตัว อย่างขับรถ หรือเปิดประตูโกดังที่ล๊อคเอาไว้ได้นั้น มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเกินวิสัยที่สัตว์ธรรมดา ๆ จะสามารถทำได้

แต่ถึงอย่างนั้น เราเองก็อดจะเอาใจช่วยเจ้าวัวใหญ่ใจดีอย่าง เฟอร์ดินานด์ ไปด้วยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกริยาที่นุ่มนวล แววตาอันใสซื่อบริสุทธิ์ และไหนจะเรื่องราวในชีวิตที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่งของลูกวัวกระทิงตัวนี้  ซึ่งดูไปดูมา ก็เริ่มจะหลงเสน่ห์ของ เฟอร์ดินานด์ เข้าจนได้

และพอเรื่องลำดับภาพของเรื่อง Ferdinand เต็มเรื่อง ก็ค่อนข้างโอเค ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่ แต่ก็ดูได้แบบสบายๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก ส่วนกราฟฟิกก็โอเคทีเดียว ภาพสวย สีสดใส การเปลี่ยนท่าทางเป็นไปได้ค่อนข้างสมูธ

ในส่วนของเพลงประกอบก็ค่อนข้างดี ถ้าเกิดว่าใครได้ดูแบบ 3D ก็จะได้ร่วมลุ้นไปกับการผจญภัยของ เฟอร์ดินานด์ ได้แบบเต็มอรรถรสมากขึ้น และในสิ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ก็คือเรื่องความรู้สึกจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้

นั่นคือ เรารู้สึกได้ถึงความโหดร้ายของมนุษย์ ที่ฆ่าสัตว์เพียงเพื่อความบันเทิง ผู้คนรับหมื่นเดินทางมารวมตัวกัน เพื่อดูมาธาดอร์ฆ่าวัวกระทิง ที่มนุษย์เราเชื่อว่าโหดร้าย พวกมันไม่มีทางเลือกใดๆ เพราะถ้าหากไม่สู้ ก็จะถูกส่งไปชำแหละเป็นเนื้อแปรรูปเอาไว้รับประทาน แบบนี้ใครกันแน่ที่โหดร้ายกว่ากัน คน หรือ สัตว์

Ferdinand เป็นภาพยนตร์โลกสวย

และถึงแม้ว่าสัตว์มันจะพูดภาษาเดียวกันกับเราไม่ได้ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ Ferdinand หนังการ์ตูน ก็ทำให้เราตระหนักได้ว่า จริง ๆ แล้วสัตว์ก็มีหัวใจ รักตัวกลัวตายด้วยกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือพวกพ้อง หรือการโหยหาอิสรภาพ

แต่ฉากที่บีบหัวใจเราที่สุด คงเป็นฉากที่บรรดาวัวกระทิงหนุ่มที่ไม่ผ่านการคัดเลือกจะถูกชำแหละ แล้วพวกมันก็พยายามจะหนีอย่างสุดชีวิต เราเองก็คิดขึ้นมาเลยว่า ถ้ากระบวนการต่างๆ มันจะโหดร้ายขนาดนี้

เราควรจะเปลี่ยนตัวเองเป็นมังสวิรัติเลยดีไหม เพราะไม่ใช่แค่วัวกระทิงที่โดนฆ่า แต่เนื้อหมู เนื้อปลา เนื้อไก่ที่เรากินๆ อยู่ทุกวัน พวกมันก็ถูกฆ่าอย่างทารุณเช่นกัน เนื่องจากข้อมูลทางการแพทย์แนะนำว่าเราควรทานสัตว์ที่รู้สาเหตุการตายแน่นอน

ถ้าหากทานเนื้อสัตย์ที่ตายตามธรรมชาติ อาจจะเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ ได้ เพราะไม่รู้ว่ามันป่วยตายหรือเปล่านั่นเอง เอาเป็นส่าเรื่องนี้ถ้าหากว่าคุณมีเวลาว่างอยู่ร่วมกับครอบครัว ก็น่าจะที่จะหอบลูกจูงหลานพาไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน

เพราะถือว่าเป็นการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ที่ดีลงไปในจิตสำนึกในกับเด็ก ๆ โตขึ้นมาพวกเขาจะได้สุภาพ อ่อนโยน และรักเพื่อนมนุษย์ เรียกได้ว่าหนังเรื่องนี้ดีต่อเด็กมาก ๆ

แต่กับผู้ใหญ่แล้วอาจจะดู Ferdinand สปอย รู้สึกว่าเด็กเกินไปอยู่สักหน่อย แต่ถ้าหากเปิดใจให้กว้างขึ้นอีกนิด และสัมผัสถึงสิ่งที่สัตว์ต้องการสื่อออกมา เราเชื่อว่าคุณจะได้รับอะไรดี ๆ จากการชมภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างแน่นอน สุดท้ายเรื่องนี้ไม่ควรพลาด