รีวิวรักไร้เสียง ฉันจะมารีวิวอนิเมะที่มีเรื่องราวความรักซึ้งจนน้ำตาไหลเลย และคงมีแอนิเมชั่นไม่กี่เรื่อง ที่พูดถึงปัญหาในวัยรุ่น และครอบครัวได้ออกมาลึกซึ้ง โดยที่ไม่ได้พยายามเค้นบรรยากาศหนังให้คนดูรู้สึกหม่นหมอง A Silent Voice เป็นหนังที่เล่าเรื่องการกลั่นแกล้ง

และความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มในวัยรุ่นได้ออกมาครบทุกมิติ และมีเหตุผลให้กับทุกตัวละคร จนเราไม่อยากให้หลายคนพลาดชมหนังเรื่องนี้ไปเพียง

เพราะคิดว่าเป็นหนังรักหวานใสเพ้อฝันโรแมนติกธรรมดา ๆ ถ้ามใครชอบอนิเมะแนวความรัก ซึ้ง ๆ แบบนี้ก็ไม่ควรพลาดนะ เพราะอะไรนะหรอ ไปดูพร้อมกัน ถ้าท่านกำลังมองหาเว็บดูหนังฟรี ไม่มีสะดุด สามารถเข้ารับชมได้ที่ ดูหนังออนไลน์

รีวิวรักไร้เสียง อนิเมะ A Silent Voice เรื่องราวของความรัก อันแสนสงบสุข

รีวิวรักไร้เสียง อนิเมะ A Silent Voice เรื่องราวของความรัก อันแสนสงบสุข

รีวิวรักไร้เสียง ผู้กำกับ

เรื่องนี้ รักไร้เสียง เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่สร้างจาก มังงะเรื่อง Koe no Katachi ซึ่งกำกับโดย Naoko Yamada เป็นเขียนบทแอนิเมชั่นโดย Reiko Yoshida และเขียนมังงะโดย Yoshitoki Oima

ฉันขอพูดถึงทางทีมงานของเรื่องนี้ ว่าประวัติความเป็นมาของพวกเขาเป็นยังไง เริ่มที่คนแรก Naoko Yamada ผู้กำกับของเรื่องนี้ นาโอโกะ ยามาดะ เป็นแอนิเมเตอร์ โทรทัศน์ และผู้กำกับภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น ทำงานที่ Kyoto Animation กำกับซีรีส์อนิเมะเรื่อง K-On

ในปี 2552 ถึงปี 2553 และ Tamako Market ในปี 2556 และภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง A Silent Voice ในปี 2559 และ Liz and the Blue Bird ในปี 2561

และในปี 2021 เธอได้กำกับอนิเมชั่นสุทธิเรื่อง The Heike Story ภายใต้ Science SARU ซีรีส์นี้ฉายทางโทรทัศน์ของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 เธอได้รับรางวัลหลายรางวัลจากผลงานของเธอ

และมีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากตัวเลือกโวหารของเธอในอนิเมะ เธอยังเป็นหนึ่งในคนที่อายุน้อยที่สุดที่ได้เป็นผู้กำกับกับ Kyoto Animation โดยได้รับโอกาสกำกับเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีหลังจากเรียนจบวิทยาลัยและเริ่มงานในสตูดิโอ สนใจี่จะรับชมเรื่องนี้ก็สามารถเข้าชมที่ ดูA Silent Voice

ยามาดะเกิดในจังหวัดเกียวโต เธอสนุกกับการวาดรูปตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และจะคัดลอกภาพจากซีรีส์ Patlabor และ Dragon Ballการแสดงความสนใจในภาพยนตร์เสมอ ยามาดะมักจะนอนดึกเหมือนเด็ก ๆ

เพื่อรอดูว่าภาพยนตร์เรื่องใดที่กำลังฉายอยู่ในช่องตอนเย็น เธอแสดงความสนใจในกิจกรรมนอกหลักสูตรเช่นกัน โดยเข้าร่วมชมรมวอลเลย์บอลในโรงเรียนประถม

และชมรมเทนนิสและการถ่ายภาพในโรงเรียนมัธยมปลาย ที่มหาวิทยาลัยศิลปะและการออกแบบเกียวโต เธอศึกษาการวาดภาพสีน้ำมันและเป็นสมาชิกของชมรมเทคนิคพิเศษ

รีวิวรักไร้เสียง ผู้กำกับ

รักไร้เสียง เรื่องย่อ สำหรับยามาดะ ส่วนที่สำคัญที่สุดของการเป็นผู้กำกับคือการสังเกตผู้คน เธออธิบายว่าตัวเองเป็นผู้กำกับ วิธีการ โดยเน้นย้ำถึงจิตใจของตัวละคร ในการสัมภาษณ์เกี่ยวกับผลงานของเธอใน K-On ยามาดะกล่าวว่า มันสำคัญมากสำหรับฉันที่จะปฏิบัติต่อตัวละคร

ในฐานะปัจเจกบุคคล ฉันไม่คิดว่าพวกเขาเป็นเพียงจินตนาการ แต่ฉันพยายามที่จะสัมผัสกับพวกเขาจากมุมมองของพวกเขา ความปรารถนาที่จะเชื่อมต่อนี้ ด้วยความคิดและความรู้สึกของตัวละครยังขยายไปถึงตัวละครและธีมของ LGBTQ+ ที่พบบ่อยในผลงานของเธอ

โดย Yamada ระบุว่าแม้ว่าเธอจะไม่ปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงธีม LGBTQ+ หรือให้การปฏิบัติเป็นพิเศษแก่พวกเขา แต่เธอก็ตั้งเป้าที่จะพรรณนาพวกเขาว่าเป็น ธรรมชาติ แน่นอน สามารถติดตามการรีวิวของเราได้เลยที่ รีวิวการ์ตูนเอเชีย

ผลงานของ Yamada มักจะนำเสนอภาพมุมต่ำที่ขา ซึ่งเป็นสไตล์ที่ทำให้เธอแตกต่างจากผู้กำกับอนิเมะคนอื่นๆ เมื่อถูกถามเกี่ยวกับตัวเลือกนี้ เธออธิบายว่า “เมื่อคุณประหม่า ให้ขยับขาไปรอบ ๆ ฉันคิดว่าการแสดงอารมณ์แบบนั้นน่าจะดี

ยามาดะให้เครดิตสไตล์และธีมส่วนใหญ่ของเธอกับความรักในภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันของเธอ แม้ว่าเธอจะตัดสินใจทำงานในแอนิเมชัน แต่องค์ประกอบการถ่ายทำและการใช้พื้นที่ส่วนใหญ่ของเธอได้รับอิทธิพลอย่างมากจากสไตล์ภาพยนตร์ที่พบในงานไลฟ์แอ็กชัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้ภาพมุมต่ำ ความชัดลึกตื้น และการเคลื่อนกล้องที่หลากหลายของเธอ ทำให้ยามาดะสามารถดึงดูดผู้ชมได้อย่างมีสไตล์เช่นเดียวกับภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันทั่วไป เมื่อพูดถึงวิธีคิดของยามาดะเกี่ยวกับตัวละครของเธอ

เธอให้ความสำคัญกับรูปแบบการสื่อสารเป็นอย่างมาก ยามาดะยังให้ความสำคัญกับการจัดองค์ประกอบสีในแต่ละช็อตของผลงานของเธอ โดยการใช้โทนสีเฉพาะทำให้เธอสามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครได้ดีขึ้น

ผู้เขียนบทแอนิเมชั่น

A Silent Voice ฉันขอต่อที่ Reiko Yoshida ผู้เขียนบทแอนิเมชั่น เรโกะ โยชิดะ เขาเกิด 31 ธันวาคม พ.ศ. 2510 เป็นนักเขียนบทภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น เธอได้เขียนบทและดูแลบทภาพยนตร์มากมายสำหรับซีรีส์อนิเมะ ละครและภาพยนตร์คนแสดง

ทางผลงานหลักของเธอ ได้แก่ Kaleido Star, Aria, Maria-sama ga Miteru, D.Gray-man, K-On! และ Bakuman และ Girls und Panzer เธอได้ดูแลบทภาพยนตร์ของ Majestic Prince และ Non Non Biyori และ A Town Where You Live

และ Tamako Market, Yowamushi Pedal และ Castle Town Dandelion ในภาพยนตร์ เธอได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง The Cat Returns ซึ่งเป็นภาพยนตร์ต้นฉบับที่จะนำมาประกอบเป็น Digimon The Movie

ผู้เขียนบทแอนิเมชั่น

ภาพยนตร์อนิเมะ A Silent Voice เรื่องย่อ ยอดนิยมเรื่อง A Silent Voice ของ Kyoto Animation และภาพยนตร์ดัดแปลงจากเรื่อง Buddha ของ Osamu Tezuka ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองที่ได้รับ ตราประทับรับรองโดยทะไลลามะ เธอเขียนเรื่องราวสำหรับมังงะเรื่อง Tokyo Mew Mew

ร่วมกับนักวาดภาพประกอบ Mia Ikumi ในบรรดาผลงานของเธอ เธอได้รับการยอมรับในสาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม/งานต้นฉบับสำหรับ Girls und Panzer ที่งาน Tokyo Anime Award Festival ในปี 2014

และเธอยังได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม/งานต้นฉบับในปี 2017 อีกรางวัลหนึ่งอีกด้วย ในปี 2018 เธอเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Violet Evergarden

ซึ่งออกอากาศทางทีวีในญี่ปุ่นและได้รับลิขสิทธิ์จาก Netflix โปรเจ็กต์ล่าสุดของเธอคือแอนิเมชันซีรีส์เรื่อง The Heike Story ซึ่งผลิตโดยสตูดิโอแอนิเมชัน Science Saru

ผู้เขียนมังงะ

รีวิวA Silent Voice มาต่อกันที่ Yoshitoki Oima เป็นผู้เขียนมังงะ เขาเกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2532 เป็นนักวาดและนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่น เป็นที่รู้จักจากผลงานการ์ตูนเรื่อง A Silent Voice และ To Your Eternity

ซึ่งโออิมะเกิดเมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2532 ที่เมืองโอกากิ ประเทศญี่ปุ่น เป็นลูกสาวคนที่สามของแม่ที่เป็นล่ามภาษามือ มีพี่สาวและพี่ชายหนึ่งคน

แล้วเนื่องจากแม่ของเธอทำงานเป็นล่ามภาษามือ Ōima ได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนมังงะชุด A Silent Voice ซึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือจากแม่และน้องสาวของเธอที่ทำงานในซีรีส์นี้

มังงะเรื่องแรกของเธอคือ Mardock Scramble ซึ่งเป็นการดัดแปลงจากนวนิยายชื่อเดียวกันที่เขียนโดย Tow Ubukata และวางจำหน่ายในปี 2009 เธอยังรับผิดชอบภาพประกอบฉากจบของตอนที่เก้าของ Attack on Titan ด้วย

ผู้เขียนมังงะ

A Silent Voice ตัวละคร และในหลังจากที่เธอประสบความสำเร็จกับ A Silent Voice Yoshitoki Ōima ก็ได้ร่วมงานกับนักวาดการ์ตูนคนอื่นๆ ในผลงานมังงะที่มีชื่อว่า Ore no 100-wame!! ในปี 2016 Yoshitoki Ōima ได้เปิดตัวมังงะชุดที่ 3 ของเธอภายใต้ชื่อ To Your Eternity

ในปี 2015 Yoshitoki Ōima ได้รับรางวัล New Creator Prize for A Silent Voice จาก Tezuka Osamu Cultural Prize A Silent Voice ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Eisner Award ในอีกหนึ่งปีต่อมา รางวัล Rudolf Dirks Award

และรางวัล Max & Moritz ในปี 2560 และ 2561 ในปี 2018 เธอได้รับรางวัลที่ French Japan Expo จาก Daruma d′Or Manga for A Silent Voice และ Daruma de la Meilleure Nouvelle Série สำหรับ To Your Eternity

เรื่องย่อ

มาฉันจะพูดถึงเนื้อเรื่องของเรื่องนี้ รักไร้เสียง ตัวละคร เลยนะ เป็นเรื่องวราวเกี่ยวกับเด็กประถมศึกษาปีที่ 6 คนหนึ่งชื่อว่า โชยะ อิชิดะ เป็นเด็กก้าวร้าวไม่เอาไหน ที่ชอบกลั่นแกล้ง โชโกะ นิชิมิยะ หญิงสาวผู้ที่มีปมด้อยคือข้อบกพร่องทางหูหรือหูหนวกนั่นเอง

ซึ่งอิชิดะกลั่นแกล้งทุกวิถีทางจากเบาก็เริ่มแรงขึ้นหนักขึ้นจนถึงขนาดที่ว่า โชโกะ นิชิมิยะ ต้องย้ายโรงเรียนซึ่งทำให้โชยะนั้นถูกเพื่อนๆมองว่าเป็นพวกเกเร อันธพาลชอบรังแกผู้อื่น คล้ายกับว่าถูกสังคมนั้นแอนตี้ไปเลยทำให้เค้านั้นตัวโดดเดี่ยวจนเค้าคิดจะฆ่าตัวตาย

พอแล้ววันหนึ่งโชยะ ได้พบกับโชโกะ นิชิมิยะ อีกครั้งทำให้เค้านั้นไม่อยากตายและอยากจะแก้ตัวในสิ่งที่เค้าเคยทำกับโชโกะไว้โชยะได้เข้าใจความรู้สึก

และสิ่งที่โชโกะต้องการจะสื่อสารกับเค้า โชยะจึงพยายามจะแก้ตัวในสิ่งที่เค้าเคยทำกับโชโกะไว้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าโชยะนั้นไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนที่เคยแกล้งโชโกะ นิชิมิยะแล้ว

พอฉันเห็นกระแสนำเข้าตั้งแต่ Your Name ละเรื่องนี้ รักไร้เสียง ฉันจึงไม่รอช้าที่จะลองเข้าไปดูครับปรากฏว่าเรื่องนี้นี่แทบจะสะท้อนเรื่องจริงมากครับเกี่ยวกับฉัน ฉันจะค่อนข้างอินหน่อย

คือในเรื่องจริงที่ฉันเคยเจอนี่คือตอนสมัยฉันเรียนอยู่ก็มีครับผญ คนหนึ่งที่หูหนวกและในห้องเธอมักจะถูกแกล้งบ่อย ๆ ซึ่งผมขอยอมรับเลยละกันว่าเคยเหมือนกัน แต่ไม่แรงเท่าในหนังนะ แต่ก็ได้มีการขอโทษและไม่ได้แกล้งกันแล้ว

เรื่องย่อ

รักไร้เสียง pantip และก็เป็นเอากล่องดินสอไปซ่อนพอเจ้าตัวรู้ตัวก็คืนให้ คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เลยรู้สึกว่าสะท้อนตรงที่ผู้คนชอบล้อเล่นกับสิ่งที่คนอื่นนั้นเป็นก็เลยค่อนข้างอินหน่อย หนังเรื่องนี่เนื้อเรื่องคอยมีให้น่าติดตามอยู่ตลอดค

ใครไม่อินอาจจะมีเบื่อได้ครับแต่คือฟินมากกกก นางเอกจะน่ารักไปไหนแทบละลาย ยิ่งตอนมัดหางม้านี่คือ ดาเมจมาก แทบจะตายคาโรงคือน่ารักมาก และก็น่าสงสารมาก เพราะอะไรควรไปดูเองครับ แหะ ๆ ละก็สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่ามันสะท้อนอีกก็คือ

ในความผิดพลาดในอดีตที่มันอาจมีผลกับปัจจุบัน อย่างในเรื่องโชยะตอนป.6 ชอบกลั่นแกล้งโชโกะเพราะอยากให้ตัวเองดูเท่ในหมู่เพื่อน ซึ่งแบบพอแกล้งละจะทำให้ตัวเองดูเท่

ซึ่งไม่เลยมันทำให้เรื่องทุกอย่างบานปลายขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เธอออกไปทำให้โชยะนั้นถูกมองในทางที่ผิดมาโดยถูกมองว่านักเลงบ้าง ชอบใช้ความรุนแรงบ้างทั้ง ๆ ที่เขาเองก็อยากได้การยอมรับในหมู่ของเพื่อน ๆ

โดยตลอดทั้งปัญหาหลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นและตอนที่เขาพบโชโกะเขาเองก็อยากจะแก้ไขที่เคยทำลงไป ตรงนี้แหละ ทำให้เราได้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่จากที่กลั่นแกล้งกันไม่ชอบกัน

แล้วก็ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ เสียงพากย์โชโกะของ ST กับพากย์ไทยน่ารักทั้งคู่ครับ แต่พากย์ไทยนี่อาจจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหน่อยนะในเสียงที่โชโกะ พูด

รีวิวรักไร้เสียง สิ่งที่ชอบในเรื่องนี้

A Silent Voice pantip ซึ่งตัวละครแต่ละตัวในเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เลย แต่ละตัวมีนิสัยที่ต่างกันคนนึงจะดีก็ดีสุดขั้วอีกตัวนึงจะร้ายก็ร้ายมาก ว่าจะไปลองหามังงะมาอ่านดูสักหน่อย เพลงประกอบเรื่องนี้นี่ฉันชอบนะ เพลง OP

ในเพลงปิดกับเพลงประกอบในหนังนี่ชอบเหมือนกัน ฉันว่าเพราะดี แต่ข้อเสียหลัก ๆ เลยที่ฉันเจอก็คือการดำเนินเรื่องที่บางทีเราอาจจะงงว่า Timeline อันนี้อยู่ในช่วงไหนกันแน่ซึ่งจะเป็นตอนช่วงเริ่มเรื่อง

ในสำหรับฉันนะ 55 เพราะฉันไม่เคยอ่านมังงะมาก่อนเรียกง่าย ๆ ก็คือไม่มีความรู้อะไรเลย 55 ตีตั๋วเข้ามาดูเลยซึ่งบางคนอาจจะไม่งงก็ได้ และอีกอย่างที่เพื่อนฉันบ่นมากก็คือหนังนั้นตัด

และส่วนที่มีในหนังสือเยอะมาก ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่านะ ใครคอมังงะก็บอกฉันหน่อยละกันครับ ยิ้ม เรื่องนี้สำหรับคนที่อยากไปดูหรือคอการ์ตูนอนิเมะและมังงะ

รีวิวรักไร้เสียง สิ่งที่ชอบในเรื่องนี้

ฉันแนะนำเป็นอย่างมากว่าควรที่จะดู รักไร้เสียง ตอนจบ คุ้มค่าตั๋วแน่นอน ซึ่งคนที่ไม่ได้อ่านมังงะอย่างฉันก็อาจจะมีงง ๆ บ้างแต่ก็พอเข้าใจอยู่ครับ ถ้าให้เทียบกับ Your Name ฉันว่าฉันชอบเรื่องนี้มากกว่านะ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนนะ

และสรุปหนังเรื่องนี้ไม่ใช่หนังรักแนวหวานจ๋านะ แต่เป็นหนังที่พยายามบอกเล่าปัญหาของหลาย ๆ อย่างผ่านตัวละครกลุ่ม ๆ หนึ่งซึ่งตรงนี้ได้ให้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างมาก และฉันแนะนำเป็นอย่างยิ่งครับว่าควรไปดู เรื่องนี้มีบางฉากเหมือนกันที่ฉันน้ำตาไหล

เพราะโชโกะน่าสงสารมาก ดราม่านี่เรียกน้ำตาฉันได้ในระดับนึงเลย ตอนนี้ฉันกะว่ากำลังจะหามังงะมาอ่านเพื่อเสริมในส่วนที่ขาดไป ตามที่เพื่อนบอกอ่ะแหละ 55 เอาเป็นว่าควรดูเป็นอย่างมาก

อนิเมะโรแมนติก ดราม่า

ซึ่งในตอนแรกที่ฉันดูเรื่องนี้ รักไร้เสียง สปอย เห็นโปสเตอร์กับชื่อไทยก็ไม่คิดอะไร คิดว่าเป็นหนังรักกัน ดราม่าซึ้ง ๆ แต่พอได้ดูแล้ว

เลยทำให้พบว่าเป็นหนังที่ผสมประเด็นหลายอย่างที่หนักอึ้งมาก มีหลายอย่างอัดแน่นอยู่ในหนังเต็มไปหมด ซึ่งเกินความคาดหมายมาก และทำให้ฉันชอบเลยแหละ แต่ฉันไม่เคยอ่านมังงะน

เรื่องนี้ก็คือหนังจิตวิทยาสะท้อนสังคม เป็นหนังชีวิตดี ๆ เรื่องหนึ่ง ที่ครอบคลุมประเด็นเรื่องวัยรุ่น ปมการแกล้งกันในสมัยเรียน ปัญหาระหว่างเพื่อน ปัญหาความรัก ปัญหาชีวิต การไม่กล้าสู้หน้าคน และลักษณะของโรคซึมเศร้าที่สามารถนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้

ในประเด็นปัญหาทั้งหลายดูจะเป็นปมปัญหาชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนทั่ว ๆ ไป ซึ่งเป็นวัยที่เต็มไปด้วยความสับสน โดยส่วนมากเราก็มักจะผ่านปัญหาเหล่านี้ไปได้ แต่ปัญหาคือ มันมีบางคนที่ไม่สามารถก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้

อาจจะไม่ใช่ทุกคนที่ได้เผชิญกับปัญหาเหล่านี้ในวัยเรียน แต่ในห้องเรียนของเรา ไม่ว่าที่ใดก็ตาม มันก็มักจะต้องมีคนหนึ่งที่ถูกแกล้งอยู่ตลอด หรือเป็นคนที่มีปมในใจใหญ่หลวง

อนิเมะโรแมนติก ดราม่า

รักไร้เสียง netflix ถ้าคนนั้นสามารถก้าวผ่านปมชีวิต ลืมเรื่องในอดีตไปได้ก็ดี แต่ถ้าดันติดกับปมในใจก้าวผ่านไม่ได้ บอกได้เลยว่า การใช้ชีวิตในแต่ละวันแทบจะเหมือนกับนรกบนดินดี ๆ และมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าอย่างโชยะนั่นเอง ใครที่ดูแล้วจะได้เห็นสภาพจิตใจอันน่ารันทดของโชยะกับโชโกะ

ถึงอนิเมะจะถูกโปรโมตออกมาคล้ายกับเป็นหนังรักโรแมนติก เรื่องราวของหนุ่มน้อยสาวน้อยที่คอยแกล้งกันแต่จบลงด้วยความรัก

แต่เรื่องราวที่แท้จริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะหนังเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ต้องแบกรับความรู้สึกผิดไว้ในใจเป็นเวลาหลายปี เพราะผลพวงจากสิ่งที่ตนเองได้กระทำไว้ในอดีต

และฉันบอกตรง ๆ ว่าครั้งแรกที่ดูจบ เดินออกจากโรงหนังมาด้วยความที่ยังไม่อินเท่าไหร่ แต่พอได้ลองหามังงะมาอ่านดูนั้น พอได้ค่อย ๆ ทำความเข้าใจตัวละครอย่างช้า ๆ

หนังเรื่องนี้กลับมีอิทธิพลต่อเราได้เยอะมากพอสมควรเลย คนที่ได้ชมหรือได้อ่าน อาจได้ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตของตนเอง ว่าเคยได้สร้างความปวดร้าวในใจใครไว้หรือเปล่า และยังติดค้างคำขอโทษต่อใครไว้หรือไม่