รีวิว mobile suit gundam hathaway

ในฐานะแฟนกันดั้มก็ต้องบอกว่ารอคอยภาค Hathaway’s Flash ทำเป็นอนิเมะมานาน เพราะถือเป็นนิยาย 1 ใน 2 เรื่องของ Universal Century ของลุง Tomino (อีกเรื่องคือ Gaia Gear) มีความ official ในแบบฉบับของผู้ให้กำเนิดซีรีส์อย่างเต็มเปี่ยม อนิเมะ

 

 

ปี 2021 ความฝันนี้ก็เป็นจริง เมื่อซันไรส์นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แบบ full featured film ในชื่อว่า Mobile Suit Gundam Hathaway (ไม่มี Flash)

อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ภาคนี้ยังนับเป็นแค่ภาค 1 ของซีรีส์ Hathaway เท่านั้น เพราะดัดแปลงจากนิยายเล่ม 1 โดยนิยายมีทั้งหมด 3 เล่ม ก็น่าจะมีทั้งหมด 3 ภาค แต่ตอนนี้ ซันไรส์ยังไม่บอกว่าภาค 2-3 จะตามมาเมื่อไร)

การดูกันดั้มยุคปี 2021 อะไรก็ง่ายกว่าเดิมมาก เพราะ Netflix ซื้อไลเซนส์มาฉายบนสตรีมมิ่งทันที มีพร้อมทั้งเสียงพากย์อังกฤษ ซับอังกฤษ ซับไทยให้เลือกสรร

จากนวนิยายของ โทมิโนะ โยชิยูกิ ในปี 1989 สู่มหากาพย์ภาพยนตร์ไตรภาคชุดที่สองของของโปรเจคท์  “UC NexT 0100″ เผื่อใครไม่ทราบ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash แต่เดิมเป็นผลงานนวนิยายไซไฟแฟนตาซีที่อิงจากจักรวาลกันดั้มหลังสงครามในภาค Char’s Counter Attack แต่งโดย ป๋าเทพ โทมิโนะ โยชิยูกิ

และวาดภาพประกอบ ออกแบบตัวละครโดย อ.ฮารุฮิโกะ มิกิโมโต้ ผู้วาดตัวละครดังๆอย่าง “มาครอส” ในตอนนั้นนั่นเอง  ออกตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1989 ซึ่งสร้างความปวดหัว ปวดตับปวดไตขายดราม่าอันแสนเข้มข้นจนจิตตกสมชื่อ “โทมิโนะจอมเชือด”

 

รีวิว mobile suit gundam hathaway

 

และภาพยนตร์อนิเมเรื่องยาวเรื่องนี้ ก็ยังเป็นหนึ่งในโครงการ ฉลองครบรอบ 40 ปี “UC NexT 0100″ ที่จะสร้างผลงานอนิเมชั่นกันดั้มให้ไปไกลจากเดิม เพิ่มความสวยงามด้วยเทคนิคการวาดภาพใหม่ๆ และการเล่าเรื่องที่สดใหม่โดยยังคงเอกลักษณ์ต้นฉบับเอาไว้

เรื่องราวโดยย่อของ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash จะเล่าเรื่องราวความขัดแย้งในปี 0105 ของ “ฮาซาเวย์ โนอา” ลูกชายแท้ๆของกัปตัน ไบร์ท โนอา ที่ทนต่อการฉ้อฉล และไม่เป็นธรรมในสหพันธ์โลก ถึงขั้นไล่ล่าคนเห็นต่าง ขับไล่พลเรือนให้ไปอาศัยอยู่นอกอวกาศ โลกจึงดูสวยงามและดูมั่งคั่ง เป็นโลกของคนรวยที่ฮาซาเวย์เห็นมาตลอดและยอมรับไม่ได้ ทำให้เขาตัดสินใจที่จะแตกหักกับพ่อที่เป็นวีรบุรุษใน “สงครามหนึ่งปี” เมื่อปี 0079 ทิ้งชื่อเดิมแล้วไปใช้ชื่อว่า “มาฟตี้ นาบิยู ไอริน”

ต่อมา มาฟตี้ได้พบกับ “กิกิ” กับ “เคนเนธ” ก็ได้ทำให้ชีวิตของมาฟตี้เปลี่ยนไปหลังจากนั้น และเรื่องราวก็จะนำไปสู่การต่อสู้ของ “สุดยอดโมบิลสูทความเร็วสูงของกองทัพสหพันธ์และทางอนาไฮม์” อย่าง “Ξ Gundam” และ “Penelope Gundam”  ประกายแสงของฮาซาเวย์ จะพาผู้ชมไปถึงจุดที่ทำให้ต้องตั้งคำถามกับตัวเองในหลายๆความหมายอย่างแน่นอน

หลังจากที่ Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ได้ลงบนแพล็ทฟอร์ม Netflix ตัวผมก็ได้ดูไป 2 รอบเต็มๆ ต้องขอมาเขียนบทความรีวิวในวันนี้เลย

ย้ำเตือนอีกครั้งสำหรับคนที่กดเข้ามาอ่านบทความนี้ว่า “มีสปอยล์” นะครับ ดังนั้นใครยังไม่ดู ถ้าไม่อยากโดนสปอยล์ขอให้คลิกปิดบทความนี้ไปก่อนนะ

สมกับเป็นหนังโรงที่ตั้งตารอคอยมาหลายปี ควรจะได้ดูตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เมื่อได้ดู ขนาดผ่านจอทีวีที่บ้าน ไม่ใช่โรงหนัง ยังโคตรจะประทับใจกับความสวยของภาพ ความสมจริง เอฟเฟ็คระเบิด ไฟ การปะทุต่างๆ การเลือกโทนสี การลงสี โดยเฉพาะฉากหลังหลายๆสถานที่ ซึ่งแน่นอนว่าโลเคชั่นของภาคนี้อย่าง ดาเวา ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างสวยงาม

ที่น่าประทับใจมากอีกอย่างคือการผสานกันระหว่าง ภาพวาด (2D) และ CG (3D) ที่มาประจบกันในฉากต่างๆ ได้อย่างสวยงามลงตัว ยกตัวอย่างก็พวกฉากที่เห็นตัวคน (2D) กับโมบิลสูท (3D) ให้เห็นพร้อมกันในฉากนั่นเอง

 

รีวิว mobile suit gundam hathaway

 

การขยับเคลื่อนไหวของตัวละครต่างๆ ถูกวาดออกมาได้อย่างสุดยอด มาพร้อมกับการใช้มุมกล้องในการถ่ายทอดเรื่องราวที่แปลกใหม่ (สำหรับผมนะ นึกเรื่องอื่นที่มีการเล่นมุมกล้องแบบนี้ไม่ออกเลย) ทุกฉากที่มีการเคลื่อนไหวของยานพาหนะ โมบิลสูท ทำออกมาได้ลื่นไหลสุดๆ

ฉากที่ฮาธาเวย์ถือปืนพุ่งเข้าห้องค็อกพิทของเครื่องบินซีนนี้ กินใจผมมากๆ ด้วยมุมกล้องและการกำกับภาพ ทำให้ตัวละครฮาธาเวย์ในซีนนี้ โคตรเท่ ทั้งๆที่ท่าทางการจับปืนอะไรมันก็เบสิคพื้นฐาน

การปะทะกันระหว่างกันดั้ม 2 เครื่อง ถูกถ่ายทอดออกมาโดยใช้ 3D CG ที่ลื่นไหลพลิ้วไหวมากๆ หุ่นเมสเซอร์เอง มีซีนทีไรก็เท่ไม่แพ้กับกันดั้มทั้ง 2 เครื่องเลย

เรื่องเพลงก็ Top Tier สุดๆ เมื่อมาถึงมือของคุณ Hiroyuki Sawano สุดยอด Music Composer ท่านนี้ (ผลงานก่อนหน้า เช่น Mobile Suit Gundam Unicorn, Gundam Narrative, Aldnoah Zero, RE: Creators, Guilty Crown)

ไล่ตั้งแต่เพลงช่วงเปิดเรื่อง “Möbius” ที่ได้ร่วมงานกับ mpi, Laco, Benjamin, เพลงที่ขึ้นมาตอนกล่างเรื่อง ช่วงที่เกาแมนขับเมสเซอร์บริเวณน่านน้ำของดาเวา “TRACER” และที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ OST ต่างๆตลอดทั้งเรื่อง ที่ไฮไลท์เลยก็คือเป็นซีนที่ XI ปะทะกับ Penelope อย่างเพลง “XI” และ “car5p3 / PENELOPE” สำหรับใครที่อยากตามไปย้ำฟัง ใน Youtube แชนเนล “澤野弘之 / SawanoHiroyuki[nZk]” มีลงไว้ เช่นเดียวกับแพล็ทฟอร์มอย่าง Spotify ก็มีให้ฟังแล้วครับ

เหตุผลที่ผมให้เพลงไม่เต็ม 10 เพราะผมรู้สึกว่า เพลงมันยังกระหึ่มไม่สุด โดยเฉพาะเพลง XI กับเพลง car5p3 / PENELOPE ผมอยากให้มันกระหึ่มขึ้น ลึกขึ้น เพื่อเพิ่มความ EPIC ในการต่อสู้กว่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าเพลงไม่เพราะนะครับ เพลงนี่คืองานดีหมดเลย

รีวิว mobile suit gundam hathaway

อันนี้ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่ใช่ว่าเนื้อเรื่องไม่ดีนะครับ แต่ด้วยเหตุที่ภาคนี้ยังเป็นพาร์ทของการปูเรื่องปูตัวละคร เกริ่นก่อน ดังนั้นแล้วเนื้อเรื่องจะยังไม่ได้มีอะไรที่แบบ Impact ต่อผู้ชมครับผมมองแบบนั้น เลยให้คะแนนไว้ที่ 7.5 แต่ถ้าพูดถึงการเล่าเรื่อง การถ่ายทอดเรื่องราว ทำได้ดีเยี่ยมครับ ไม่รีบ ไม่ช้าไป ดูอนิเมะ

 

 

คุณภาพการดัดแปลงจากนิยายต้นฉบับ ก่อนหน้าหนังจะฉายใน Netflix ราวๆ 1 เดือน ผมได้ซื้อนิยายภาค Hathaway’s Flash ลิขสิทธิ์ของ animag มาอ่าน และพบว่าการบรรยายเนื้อเรื่องบางพาร์ทบางซีน มันซับซ้อน นึกภาพตามยากมาก พอได้มาดูหนังโรงนี้ การลำดับต่างๆในการบรรยายได้ถูก “Revise” ให้กระชับและเข้าใจง่ายขึ้นเยอะมาก

พาร์ทที่ผมปวดหัวมากที่สุดตอนอ่านนิยายคือซีนนี้เลยครับ การเข้าไปเอาหุ่น XI Gundam และกว่าที่มันจะบินออกมาได้ ตอนอ่านนิยายนึกภาพตามยากมาก พอมาดูในหนังแล้วให้ความรู้สึก อ้าว ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยนี่

ซีนที่เคนเนธกับกิกิได้คุยกันครั้งแรก ในนิยายก็จะมีให้เห็นยาวกว่าในหนังครับ หนังได้นำมาเรียบเรียงใหม่ อย่างเช่น ซีนที่กิกิพูดถึงที่มาของชื่อ มาฟตี้ นาบิว เอริน และฉากที่นั่งดูหนังสือภาพสุดน่ารักตอนที่โดนปล้นจี้เครื่องบินอยู่ ในนิยายนั้นเป็นกิกิที่พูดกับเคนเนธก่อนโดนจี้เครื่องบินนะครับ ไม่ใช่กับเจ้ามัฟตี้ตัวปลอม

ถามว่าตัดจากนิยายเยอะไหม ? ถ้าผมจำไม่ผิด (ยอมรับว่าจำทุกหน้าของนิยายไม่ได้หรอกครับ 555+) ไม่มีอะไรหลักๆถูกตัดไปเลยครับจากนิยายเล่มหนึ่ง สิ่งที่ถูกตัดไปจะเป็นองค์ประกอบเล็กๆใน scenario ต่างๆ

ยกตัวอย่างนะครับ เหตุการณ์บนเครื่องบินฮาวเซ่น ก่อนจะเกิดเหตุปล้นเครื่องบินขึ้น จะมีเหตุการณ์พูดคุยระหว่างตัวละครบนเครื่องกันมากกว่าที่เห็นในหนัง เช่น มีการคุยกันระหว่างฮาธาเวย์กับเพอร์เซอร์บนเครื่องบิน

สำหรับการบรรยายความรู้สึกของผมหลังได้ดูหนัง Mobile Suit Gundam Hathaway’s Flash ก็คงจบลงเพียงเท่านี้ ตอนนี้ก็ตั้งตารอคอยหนังพาร์ทต่อไปสุดๆ ตัวหนังคาดว่าจะมีทั้งหมด 3 พาร์ทครับ พอดีกับนิยายที่มี 3 เล่ม เดาๆว่าภาคถัดไปน่าจะมาสัก 2023 เลยก็เป็นได้ เพราะได้ข่าวว่าทีม Production พึ่งเริ่มไป research พื้นที่ออสเตรเลียกันไม่นาน ทั้งนี้ขอบคุณภาพจากเพจ Gundam News และเว็บไซต์ gundam.info ที่ได้นำมาใช้ประกอบบทความนี้ด้วยครับ

ความรู้สึกหลังดู

ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูดีมากและมีการออกแบบตัวละครที่สวยงาม แต่นอกเหนือจากนั้นมันเป็นคำขวัญและแนะนำสำหรับแฟนตัวยงที่ลงทุนอย่างหนักใน Gundam เท่านั้น ผู้ที่มาใหม่ในซีรีส์นี้จะสับสนอย่างมากและจะรู้สึกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตัวละครหรือเรื่องราวอย่างแท้จริง และอาจรู้สึกหงุดหงิดจากการไม่มีข้อมูลทบทวนใดๆ เว็บดูอนิเมะ

 

 

ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของ Universal Century ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้ยกระดับประวัติศาสตร์อันยาวนานด้วยตัวละครที่อายุน้อยกว่าแต่คุ้นเคยอย่างน่าเศร้า การอธิบายที่ไม่สิ้นสุดนี้จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบละคร แต่คนที่กำลังมองหาการกระทำที่สมดุลกว่านี้จะไม่พบที่นี่

โดยสรุป ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูดีด้วยฉากแอคชั่นที่เบาบางและเรื่องราวที่ต้องใช้บทสรุปอย่างรวดเร็ว Hathaway เป็นความพยายามที่คู่ควรของ Netflix ในการนำเสนอ Gundam ให้กับผู้ชมที่ต้องการความโดดเด่นและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นในแฟรนไชส์นี้

ฉันไม่ใช่แฟนของซีรีส์นี้ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำแนะนำจาก Netflix และฉันคิดว่าฉันจะลองดู ฉันรักมัน! ฉันสนุกกับมันมาก

อย่างแรก ฉันชอบงานศิลปะ มันเป็นสไตล์คลาสสิกพร้อมสัมผัสของเทคโนโลยีแอนิเมชั่นสมัยใหม่ ฉันรู้สึกเหมือนฉันดูอะนิเมะยุค 80 แต่ดีขึ้นมาก ประการที่สอง บรรยากาศ มีความโรแมนติกในอากาศพอสมควร และ tbh ทำให้ฉันนึกถึงภาพยนตร์คลาสสิกของเจมส์ บอนด์ นอกจากนี้ยังมีฉากบริการแฟน ๆ อีกด้วย โชคดีที่ไม่มีอะไรหยาบคาย ประการที่สาม เรื่องราวอาจสนุกกว่านี้ถ้าฉันติดตามซีรีส์ แต่ฉันคิดว่ามันเพียงพอสำหรับผู้ที่ไม่ใช่แฟนเช่นฉัน มันทำให้ฉันต้องการขุดลึกลงไปในซีรีส์

 

 

อย่างแรกเลย แอนิเมชั่น ภาพยนตร์ และบรรยากาศนั้นน่าทึ่งมาก การออกแบบระดับโลกคือ 10/10 และการเขียนและโครงเรื่องที่ค่อนข้างดี ฉากกลางคืนนั้นน่าทึ่งมากและต้องได้เห็นการต่อสู้ของเมชาจากมุมมองของผู้คนบนพื้นนั้นเจ๋งมากและคุณรู้สึกถึงขนาดของมันจริงๆ แน่นอนว่าสำหรับแฟนๆ กันดั้มเท่านั้น หากคุณเพิ่งเริ่มใช้กันดั้ม คุณอาจจะเกาศีรษะได้

ฉันชอบหนังเรื่องนี้มาก แต่มันมีปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งคือ กันดั้มต่อสู้และออกแบบ น่าเสียดายที่คุณแทบมองไม่เห็นกันดั้มที่ผู้กำกับเลือกไม่ให้กล้องเห็นเลยเกือบทั้งเรื่อง และสุดท้ายเมื่อพวกมันต่อสู้กัน ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ในพริบตา อันที่จริงการออกแบบของกันดั้มนั้นดูแย่มาก อาจเป็นการออกแบบกันดั้มที่แย่ที่สุดจนถึงตอนนี้

พวกเขาใช้เส้นทางที่ไม่ธรรมดามากด้วยการออกแบบที่ทำให้พวกเขาดูมีหนามแหลมขนาดใหญ่และดูเหมือนมังกร แต่กลับถูกทำออกมาได้ไม่ดี และมันเหมือนกับว่าพวกเขาไม่ต้องการให้คุณเห็นด้วยซ้ำเพราะส่วนใหญ่กล้องจะซูมออกและการต่อสู้ก็เกิดขึ้นในพริบตา เมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่าอันไหนคืออันไหน เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่ซีรีส์กันดั้มมีดีที่แสดงให้เห็นถึงความสุดยอดของกันดั้ม แต่เราไม่เคยได้รับโอกาสนั้นที่นี่ ดูการ์ตูน