รีวิว The Girl Who Leapt Through Time

หากใครเคยประทับใจในผลงานอนิเมชั่นของ “มาโมรุ โฮโซดะ  (Mamoru Hosoda)” หนึ่งในผู้กำกับเรื่องชื่อของญี่ปุ่น ทั้งจาก Wolf Children Ame and Yuki คู่จี๊ดชีวิตมหัศจรรย์  , Summer Wars เรื่องวุ่น ตระกูลใหญ่ หรือ The Boy and the Beast ศิษย์มหัศจรรย์กับอาจารย์พันธุ์อสูร ดูอนิเมะออนไลน์

 

 

นี่ถือเป็นผลงานชิ้นเอกอีกเรื่องที่แฟนการ์ตูนไม่ควรพลาด! กับภาพยนตร์อนิเมชั่นไซไฟ The Girl Who Leapt Through Time กระโดดจั้มพ์ทะลุข้ามเวลา ผลงานการกำกับของอาจารย์มาโมรุ โดยสตูลดิโอแมดเฮาส์ (Madhouse) ที่คว้ารางวัล “Japan Academy Awards”  สาขาแอนิเมชันแห่งปี 2006 มาแล้ว

โดยสำหรับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่องนี้ ได้รับการดัดแปลงมาจากนวนิยายวิทยาศาสตร์ บทประพันธ์ตั้งแต่ปี 1976 เรื่อง Toki o Kakeru Shōjo ของ “ยาซุทากะ ซึซุย (Yasutaka Tsutsui)” และด้วยกระแสตอบรับในรูปแบบอนิเมชั่นที่ดีนี้เอง ต่อมาก็ได้รับการดัดแปลงเป็นเวอร์ชั่นคนแสดงอีกครั้ง ในฉบับภาพยนตร์ ในชื่อ Time Traveller: The Girl Who Leapt Through Time ที่เข้าฉายในช่วงเดือนมีนาคม 2010

เรื่องราวในวันที่เหมือนจะธรรมดา แต่ไม่ธรรมดาของ “มาโกโตะ” เด็กสาว ม.ปลาย จอมซุ่มซ่ามตัวดี ที่พร้อมดึงดูดทุกโศกนาฏกรรมเข้าหาตัว ซึ่งแม้ที่แล้วมาเธอจะพกพาโชคดีชดเชยโชคร้ายมาตลอด แต่คงไม่ใช่สำหรับตอนนี้อีกต่อไป

รีวิว The Girl Who Leapt Through Time

 

ในวันหนึ่งที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายสารพัดอย่างของมาโกโตะ หลังจากเธอต้องประสบ ทั้ง การสอบโดยไม่ได้นัดหมาย อุบัติเหตุในห้องคหกรรม หรือถูกเพื่อนล้มทับโดยไม่ตั้งใจ

ระหว่างทางขากลับจากเล่นเบสบอลกับเพื่อนสนิทท้งสอง “โคสุเกะ” และ “ชิอากิ” นั้นเอง เธอก็ได้ประสบอุบัติเหตุอีกครั้ง และนั่นหมายถึงอุบัติเหตุร้ายแรงที่จะทำให้เธอจากไปตลอดกาล เมื่อรถจักรยานของเธอแบล็กเสีย ระหว่างลงทางลาดชันที่รถไฟกำลังแล่นผ่าน แต่แล้ว… ระหว่างที่ร่างของเธอกำลังถูกรถไฟบดขยี้ เธอกลับพบว่าตัวเองกลับมายังช่วงเวลาก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ และนั่นทำให้เธอรอดชีวิตกลับมา

มาโกโตะพบว่า… ตัวเธอสามารถกระโดดข้ามเวลาย้อนกลับไปอดีต และเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้ จุดนี้เองจึงเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความวุ่นวายขนาดใหญ่ที่ตามมา

มาโกโตะกระโดดข้ามเวลา เพื่อแก้ไขเรื่องราวต่างๆ ที่เคยผิดพลาด หรือไม่เป็นอย่างใจ ซ้ำๆ รวมถึงการสารภาพรักจากเพื่อนรักของเธอ “ชิอากิ” โดยหารู้ไม่ว่า ทุกครั้งที่เธอทำเช่นนั้น จะมีคนต้องสูญเสียแทนเธอ

มาโกโตะค่อยๆ เรียนรู้ถึงอันตรายที่มาพร้อมกับการเดินทางข้ามเวลา ที่เริ่มเหลือจำนวนน้อยลงไปทุกที ขณะเดียวกับที่การสูญเสียครั้งใหญ่กำลังมาถึง พร้อมกับความจริงที่ว่า ไม่ได้มีเธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ย้อนกลับมาในอดีตได้ แต่ยังมีใครอีกคนใกล้ตัวเธอเช่นกัน ที่เดินทางมาจากอนาคต เพื่ออยู่กับเธอ

เรื่องราวความรัก มิตรภาพ บนเส้นเวลาที่มีทั้ง “ได้รับ” และ “สูญเสีย” นี้ จะเป็นอย่างไร ใครคือตัวละครม้ามืดที่จะสะกดทุกคนให้หลงรัก และเสียน้ำตาไปพร้อมๆ กับมาโกโตะ ติดตามผลงานอนิเมชั่นพล็อตเรื่องเจ๋ง สายเส้นเป็นเอกลักษณ์จากผู้กำกับ “มาโมรุ โฮโซดะ” นี้ได้แล้ว วันนี้

รีวิว The Girl Who Leapt Through Time

มาโกโตะ คนโนะ – Makoto Konno (紺野真琴) ลูกสาวคนโตของบ้าน…. จอมซุ่มซ่าม มีบุคลิกซุกซน แก่นเซี้ยว ขี้โวยวายเหมือนเด็กผู้ชาย มีเพื่อนสนิท “โคสุเกะ” และ “ชิยากิ” พบว่าตัวเองสามารถกระโดดย้อนเวลาได้ ตามคำอธิบายของน้าสาว ที่เธอเรียกว่า “น้าแม่มด” รีวิวการ์ตูนออนไลน์

 

 

ชิอากิ มามิยะ – Chiaki Mamiya (間宮千昭) เพื่อนชายคนสนิทของมาโกโตะ ที่ชอบเล่นเบสบอลด้วยกันบ่อยๆ เป็นคนร่าเริง ช่างพูด ชอบทำตัวอิเหละเขะขะ แถมเรียนไม่เก่ง จนดูเหมือนจะพึ่งพาไม่ได้ อีกทั้งยังเป็นนักเรียนใหม่ของชั้น ที่ย้ายโรงเรียนบ่อย แต่เขากลับมีความลับบางอย่างที่เก็บซ่อนงำไว้

โคสุเกะ ทซึดะ – Kousuke Tsuda (津田功介) เพื่อนชายคนสนิทของมาโกโตะอีกคนที่ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะเรียน เล่น(เบสบอล) หรือกลับบ้าน เขาเป็นลูกชายของคุณหมอ และมีความฝันอยากเป็นหมอเหมือนพ่อเช่นกัน ด้วยความที่โคสุโกะ ฉลาด ดูดี และดูพึ่งพาได้ จึงทำให้มีสาวๆ มาแอบชอบ และคนๆ นั้นก็คือ “คาโฮ ฟุจิทานิ”

ยูริ ฮายากะวะ – Yuri Hayakawa (早川友梨) เพื่อนสนิทสาวคนเดียวของมาโกโตะ ดูเรียบร้อยกว่า แต่ก็กำลังแอบชอบชิอากิอยู่

คาโฮ ฟุจิทานิ – Kaho Fujitani (藤谷果穂) เด็กสาวรุ่นน้องขี้อายของมาโกโตะ แอบชาวโคสุเกะจากคำบอกเล่าของคุณยาย ระหว่างการออกค่าย เธอมีเพื่อนสนิทที่คอยช่วยเหลือเรื่องโคสุเกะเสมอ คนนึงห้าวๆ คนนึงปากจัด แต่ที่เหมือนกันทั้งสองคนคือ “แรง” แตกต่างจากเธอที่แรียบร้อย พูดน้อย บอบบาง

 

รีวิว The Girl Who Leapt Through Time

 

คาสุโกะ โยชิยามะ – Kazuko Yoshiyama (芳山和子) น้าสาว ผู้เป็นที่ปรึกษาของมาโกโตะ มีฉายาว่า “แม่มด” เธอเป็นนักโบราณคดี ในพิพิธภัณฑ์ และเคยเดินทางย้อนเวลามาก่อน จนเป็นสาเหตุให้เธอต้องประสบกับเหตุการณ์ที่ทำให้เธอต้องโสดมาถึงปัจจุบัน

มิยากิ คนโน Miyuki Konno (紺野美雪) น้องสาวของมาโกโตะ อยู่ ม.ต้น แอบกินพุดดิ้งของมาโกโตะ จนเธอต้องเวลากลับไปชิงกินก่อน

ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานชิ้นเอกอันดับแรกๆ โดยการกำกับของ ผกก. “มาโมรุ โฮโซดะ” ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นสู่ฝีมือขั้นกว่าหลังจากนี้ที่ดีเลยทีเดียว เพราะเรายังคงได้เห็นการใส่ใจในรายละเอียดและวิธีการเล่าเรื่องเจ๋งๆ ที่มีการพลิกแพลง และสร้างเซอร์ไพรส์ให้คนดู จนไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมผลงานหลังจากนี้ ถึงมีพัฒนาการหลายๆ ด้านที่ประทับใจกว่าเดิม

โดยข้อสังเกตหนึ่ง จะพบได้ว่า ผลงานต่างๆ โดยการกำกับของมาโมรุจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการข้ามมิติหรือเวลา ไปทางแนวเหนือจริง ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวเป็นส่วนใหญ่ แน่นอนว่าอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็เกี่ยวโยงกับการเดินทางข้ามเวลาโดยตรง ที่แม้คนดูอาจประสบกับปัญหาความสับสนเรื่องไทม์ไลน์ของเวลาที่ตัวนางเอกของเรื่องย้อนไปย้อนมา

ประกอบกับความน่าเบื่อบางช่วงบางตอนของการเดินทางย้อนเวลาซ้ำๆ แต่ก็ถือว่าจบได้ดี ทั้งสำหรับในเรื่องของความรู้สึกที่ทำให้คนดุูอยากติดตาม ให้มีภาคต่อไป หรือการค่อยสอดแทรกแง่คิดให้เราได้คิดตาม และใส่ใจกับสิ่งต่างๆ ที่ปรากฏในเรื่องราวที่ล้วนแต่เงื่อนงำซ่อนอยู่ แม้จะยังมีหลายๆ เงื่อนงำที่ถูกปล่อยละไว้ ไม่มีการพูดถึงต่อก็ตาม

ความรู้สึกหลังดู

ภาพยนตร์ของเขาทั้งสามเรื่องกล่าวว่า อีกสองเรื่องคือ Summer Wars และ Wolf Children ในขณะที่ไม่มีข้อบกพร่อง (Summer Wars มีตัวละครมากเกินไปและมีการพัฒนาได้ดีกว่าเรื่องอื่นๆ และ Wolf Children มีช่วงเวลาที่เร่งรีบและจบลงอย่างสรุปไม่ได้) เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและเป็นผลงานชิ้นเอกที่เกือบจะดีพอๆ กับผลงานที่ดีที่สุดของ Studio Ghibli รีวิวอนิเมะ

 

 

The Girl Who Leapt Through Time นั้นซับซ้อนเกินไปในตอนท้ายและการออกแบบตัวละครขาดความซับซ้อนและรายละเอียดของอนิเมชั่นที่เหลือ ในทางกลับกัน หากพูดถึงอนิเมชั่นที่เหลือ มันวิเศษมาก (สิ่งที่ภาพยนตร์ทั้งสามเรื่องของ Hosoda มีเหมือนกัน)

ด้วยพื้นหลังที่เหมือนสีน้ำและสีสันที่สวยงาม อนิเมชั่นในการข้ามเวลานั้นสร้างสรรค์และวาดได้ง่ายจนแทบหยุดหายใจ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีโน้ตดนตรีที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย (เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ในภาพยนตร์ Hosoda ทั้งสามเรื่องมี) เป็นการสะกดจิตในเชิงบวกและบางครั้งก็ปลุกเร้าและบางครั้งก็เศร้า ฉันยังชื่นชมการใช้การให้คะแนนเปียโนที่ไม่เป็นการรบกวน

มีบทประพันธ์ที่รอบคอบซึ่งฟังดูเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง (ภาษาญี่ปุ่นและอเมริกัน บทพากย์อาจแปลไม่ค่อยดีนักแต่ก็ใช้ได้ดีที่นี่) สมบูรณ์ด้วยความสมดุลระหว่างความตลกขบขันและละคร เรื่องราวมีส่วนร่วมอยู่เสมอและไม่น่าเบื่อเลย เป็นเรื่องตลก ฉุนเฉียว มีจินตนาการ และกระตุ้นความคิด และยังใช้แนวคิดการเดินทางข้ามเวลาอย่างมีประสิทธิภาพมาก

 

 

(หนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีกว่าที่ควรทำ) ข้อความได้รับการจัดการอย่างดีและไม่วางหนาเกินไป ตัวละครน่าเอ็นดูและน่าสนใจมากกว่าการเดินทางข้ามเวลาและการให้เสียงพากย์อเมริกันก็ดี (แม้ว่าเสียงพากย์ของตัวละครในชื่อเรื่องอาจจะแหลมๆ สำหรับบางคน โดยส่วนตัวแล้วไม่ใช่ปัญหา) และดีมากแน่นอน ในเวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น

โดยรวมแล้วเป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยม สถานะใกล้ผลงานชิ้นเอกในความเป็นจริง ถ้าคุณรัก The Girl Who Leapt Time และยังไม่ได้ดู Summer Wars หรือ Wolf Children ให้ทำเช่นนั้น 9/10 เบธานี ค็อกซ์

วัยรุ่น มาโกโตะ คนโนะ เป็นนักเรียนหญิงธรรมดา เธอเล่นเบสบอลกับเพื่อนชายของเธอ เธอมาช้าไปมาก เธอบังเอิญไปเจอสิ่งของชิ้นเล็กๆ ที่โรงเรียน และเธอก็พบกับการเดินทางที่เหนือจริง เมื่อเธอโดนรถไฟชนขณะขี่จักรยานยนต์ที่มีปัญหา เธอกระโดดย้อนเวลากลับไปอย่างปลอดภัย

เป็นหนังการ์ตูนญี่ปุ่นที่ดี ฉันชอบตัวละคร เรื่องนี้ค่อนข้างดีในแบบ Groundhog Day มันค่อนข้างดี ฉันไม่มีข้อตำหนิอะไรมากมายแต่ฉันก็ไม่ได้ตกหลุมรักกับสิ่งนี้ ประเด็นคือ ชิอากิ มามิยะ เขาต้องมีเสน่ห์มากขึ้นและเขาต้องการเวลาอยู่หน้าจอมากขึ้น

ฉันเข้าใจว่าเขาเป็นคนที่เจ๋งมาก ลักษณะที่น่าสนใจที่สุดของตัวละครของเขาน่าจะเป็นผมของเขา เขามีช่วงเวลาที่ดี แต่ยังไม่เพียงพอจนกว่าจะเปิดเผย ฉันไม่ว่าอะไรหรอก แต่เขาอาจจะเป็นมากกว่านั้นก็ได้ โรแมนติกมากขึ้นจะช่วยได้จริงๆ การขี่ริมทะเลสาบมาจากไหนไม่รู้ มันต้องการการพัฒนามากกว่านี้ รีวิวหนังการ์ตูน