รีวิว Mary and Max
VIDEO
ครบรอบ 10 ปี Mary and Max: มิตรภาพกับความเดียวดาย / ความเดียวดายคือมิตรภาพ
ดูอนิเมะออนไลน์
.
ในปี 2004 อดัม เอลเลียต นักทำหนังอิสระจากออสเตรเลียได้ข้ามฟากมาชนะรางวัลออสการ์สาขาแอนิเมชั่นขนาดสั้นยอดเยี่ยมจากเรื่อง Harvie Krumpet (2003) และเดินหน้ากวาดรางวัลจากเวทีอื่นๆ ทั้งหมดที่ได้เข้าชิง เป็นการพิสูจน์ว่าตัวละครดินเหนียวกับเทคนิคถ่ายสต็อปโมชั่นเป็นมากกว่าเพียงการ์ตูนที่ดูเอาสนุก
แล้วห้าปีให้หลังเขาก็กลับมาอีกครั้งด้วยผลงานแอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกที่ชื่อ Mary and Max (2009)
“ผมกับทีมงานต้องสร้างกันอยู่ห้าปีเต็ม” อดัมยอมรับ “เป็นการเดินทางจากหน้ากระดาษสู่จอภาพ”
เขายังคงยึดแนวทางเดิมซึ่งใช้หุ่นดินเหนียวและการถ่ายสต็อปโมชั่นในการถ่ายทอดเรื่องราว โดยหนนี้เป็นมิตรภาพผ่านจดหมายของคนสองคนที่อยู่กันต่างซีกโลก แมรี่ คือเด็กสาวขี้เหงาในเมลเบิร์นที่สุ่มเขียนไปหาใครคนหนึ่งในแมนฮัตตัน
และที่อยู่ผู้รับก็บังเอิญเป็นของ แม็กซ์ ชายสูงวัยร่างท้วมที่ชอบปลีกวิเวก ความเข้าอกเข้าใจกันและกันผลักดันให้เขาและเธออยากสนิทชิดเชื้อ บังเกิดเป็นไมตรีไร้พรมแดนระหว่างสองคนแปลกหน้าที่ยืนยาวร่วมยี่สิบปี
“แม็กซ์นี้มาจากเพื่อนทางจดหมายในนิวยอร์กของผมเอง” อดัมเผยแรงบันดาลใจ “ผมเขียนคุยกับเขามายี่สิบปี เขาเป็นทั้งเอทิสต์และก็มีอาการแอสเพอร์เกอร์ แต่ก็มีหลายอย่างที่แต่งเติมเอาเพื่อไม่ให้เรื่องจริงมาปนกับเรื่องแต่งจนเกินไป”
อย่างไรก็ตามนอกจากกระบวนการสร้างที่จะยุ่งยากจนเลือดตาแทบกระเด็นแล้ว การระดมทุนทำก็ลำบากไม่น้อย อดัมไม่ใช่นักทำหนังที่มีฐานที่มั่นในฮอลลีวูด เขาเลือกจะเร่ขายไอเดียในบ้านเกิดโดยมีเพียงสคริปต์ไว้มัดใจ
ซึ่งก็ดูเหมือนจะเพียงพอต่อการรวบรวมงบสักแปดล้านเหรียญออสเตรเลีย แต่ที่เกินคาดกว่านั้นคือการที่บทหนังของเขาไปชนะใจนักแสดงชั้นนำจำนวนหนึ่งซึ่งยินดีมาพากย์เสียงให้อย่างเต็มใจ
“เราโชคดีมากๆ ที่ได้มาครบหมดตามต้องการทั้ง ฟิลิป ซีย์มัวร์ ฮอฟฟ์แมน, โทนี่ คอลเลต์ และ เอริค บานา” อดัมกล่าว “พวกเขาล้วนตอบตกลงหลังได้อ่านบท และก็สมัครใจกันเข้าร่วมเพราะเนื้อหา หาใช่เงินที่เราเสนอให้ เพราะค่าตัวพวกเขามากเกินงบหนังทั้งเรื่องของเราซะอีก”
จนเมื่อ Mary and Max ออกฉายก็สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายมากว่าเหตุใด ยอดฝีมือเหล่านั้นถึงให้การสนับสนุนหนังเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เพราะนี่คือแอนิเมชั่นที่ก้าวข้ามสู่มิติใหม่ในการนำเสนอเรื่องราว หุ่นดินปั้นที่ยังคงเคลื่อนไหวเป็นการ์ตูนนั้นมอบทั้งความขบขันและความจริงจังถึงขีดสุด เพราะนอกจากจะสะท้อนความเดียวดายในสังคมปัจจุบันที่มีสาเหตุมาจากสภาพแวดล้อมรอบข้าง
หนังยังถ่ายทอดความบกพร่องในระดับปัจเจกบุคคล การตัดสินใจที่ผิดพลาด การมุ่งหาความสุขซึ่งบางครั้งก็สมหวัง แต่บางครั้งก็ไม่เป็นดังที่คาด ชีวิตนี้ไม่มีอะไร…หรือใครที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างต้องประคองตัวกันไปตามลำพัง ซึ่งถ้าโชคดี ก็มีบ้างที่ได้เพื่อนรู้ใจมาช่วยปลอบขวัญ แต่สุดท้ายความเดียวดายนั้นเองคือมิตรแท้
“สิ่งที่ผมหวังจากงานของตัวเองก็คือการที่คนดูได้เข้าถึง ได้หัวเราะกับช่วงที่สนุก ได้ร้องไห้กับช่วงที่เศร้า ผมหวังว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกเสียดายเงินสำหรับเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่งนั้น” อดัมเปิดใจ
“นี่คือประสบการณ์ทำหนังที่ยากลำบาก งานสต็อปโมชั่นเหมือนการได้ร่วมรักและถูกแทงจนขาดใจตายไปพร้อมกัน (ฮา) ผมไม่แปลกใจหรอกที่ไม่ค่อยมีใครทำกัน แต่จากเลือดที่หลั่งและหยาดเหงื่อที่เสียกันไป เราภูมิใจกับ Mary and Max มากจริงๆ”
Mary and Max เป็นเรื่องราวมิตรภาพทางจดหมายอันแสนงดงามของแมรี่ เด็กหญิงตัวน้อยที่แสนโดดเดี่ยว และแม็กซ์ ชายหนุ่มที่เข้ากับใครไม่ได้…
เรื่องราวอันน่าประทับใจเริ่มต้นที่ “แมรี่ เดซี่ ดิกเคิล” เด็กหญิงวัย 8 ขวบที่อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย แม่ของเธอติดบุหรี่และกินเหล้าจนเมาแอ๋แทบทุกวัน ส่วนพ่อที่เป็นพนักงานเย็บเชือกถุงชาก็เอาแต่หมกตัวอยู่กับนกสตาฟ
แมรี่ไม่มีเพื่อนที่โรงเรียน และมักจะโดนล้อเรื่องปานสีขี้หมาบนกลางหน้าผากอยู่เสมอ แต่เธอยังมีไก่ที่ตกจากรถบรรทุกซึ่งกำลังเดินทางไปโรงฆ่าสัตว์ และเพื่อนบ้านที่เป็นโรคกลัวที่กว้าง (และไม่ยอมออกจากบ้าน) เป็นเพื่อน แต่ถึงยังไงแมรี่ก็ยังรู้สึกเหงา และอยากมีเพื่อนอย่างคนอื่นบ้าง
วันหนึ่ง ขณะที่แมรี่ไปสำนักงานไปรษณีย์กับแม่ เธอก็เกิดไอเดียบรรเจิด จะเขียนจดหมายถึงคนแปลกหน้า เธอเลือกสุ่มชื่อคนในอเมริกาจากสมุดหน้าเหลือง และเธอได้เขียนจดหมายถึง “เอ็ม. โฮโรวิตซ์”
แม็กซ์ เจอร์รี่ โฮโรวิตซ์ ชายหนุ่มวัย 44 ปี อาศัยอยู่ในอพาร์ตเม้นท์เล็กๆในนิวยอร์ก แม็กซ์เข้ากับใครไม่ได้ อารมณ์อ่อนไหว และสติแตกง่าย แยกแยะสีหน้าของผู้คนไม่ออก
ทั้งยังไม่มีเพื่อน เขาอาศัยอยู่กับแมวที่มีตาข้างเดียว หอยทาก ปลาทอง (ที่มักจะตายแบบพิสดารบ่อยจนต้องหาปลาตัวใหม่มาแทนที่อยู่เสมอ) และแม็กซ์ยังมีเพื่อนในจินตการเคราดกที่มักจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆอยู่ที่มุมห้อง ทั้งยังมีเพื่อนบ้านแก่หงักที่มีตาฝ้าฟางขั้นรุนแรง
แม็กซ์ตื่นเต้นมากที่ได้รับจดหมายของแมรี่ เขาอ่านมัน 4 รอบ และเกือบจะสติแตกเพราะความตื่นเต้น แต่ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเขียนจดหมายตอบเพื่อนตัวน้อยจากออสเตรเลีย
ทั้งคู่เขียนจดหมายหากันหลายต่อหลายปีจนกลายเป็นเพื่อนสนิทของกันและกันในที่สุด แม๊กซ์ชอบที่จะเขียนจดหมายตอบปัญหาของแมรี่ (ซึ่งบางครั้งจดหมายจากเพื่อนคนนี้ก็ทำให้เขาสติแตก เข้าโรงพยาบาลประสาท
และฆ่าคนโดยไม่เจตนา) ส่วนแมรี่ก็ชอบที่จะอ่านเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของแม็กซ์เช่นกัน มิตรภาพของทั้งคู่งอกเงยและงดงาม… พวกเขาต่างก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง เส้นทางชีวิตของทั้งคู่จะมาบรรจบกันในที่สุด…
หนังเล่าผ่านมุมมองของบุคคลที่สาม แมรี่ และแม็กซ์ สอดแทรกไปด้วยมุกตลกร้าย และทัศนคติ ซึ่งรวมไปถึงความคิดอันน่าขันของเด็กหญิงและชายหนุ่ม ตลอดการดำเนินเรื่อง หนังแสดงให้เห็นถึงเส้นทางชีวิตและมิตรภาพของทั้งสอง ที่มีทั้งอุปสรรค และบางครั้งก็เลวร้าย ไร้ที่ยึดเหนี่ยว และไม่ได้สวยงามเสมอไป
รีวิว Mary and Max
ทั้งยังให้ข้อคิดมากมายเกี่ยวกับมิตรภาพ การรักและการยอมรับตัวเอง ตั้งแต่เริ่มจนจบเรื่อง หนังให้ความรู้สึกหดหู่ แต่ก็อบอุ่นใจไปพร้อมๆกัน องค์ประกอบทั้งหลายของตัวหนัง กรั่นกองออกมาเป็นความประทับใจที่จะมีโอกาสสัมผัสได้ไม่บ่อยนัก
รีวิวการ์ตูนออนไลน์
เด็กหญิงแมรี่กับเพื่อนซี้ ช็อคโก้ แม็กซ์ (Mary and Max) เป็นอนิเมชั่นดินน้ำมันแนวตลกดราม่าที่ดำเนินเรื่องโดยการเล่าผ่านบุคคลที่สาม สร้างสรรค์และกำกับโดย อดัม เอลเลียต ผู้กำกับฝีมือดีที่เคยคว้ารางวัลออสกาาร์สาขาภาพยนต์สั้นมาแล้ว ภาพยนต์อนิเมชั่นเรื่องนี้ออกฉายในปี ค.ศ. 2009
แมรี่ ดิงเคิล เด็กเด็ญวัย 8 ปีจากเมลเบิร์น เธออาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีคุณแม่ติดเหล้าและคุณพ่อหมกมุ่นอยู่กับการสตัฟฟ์สัตว์ และเธอยังมีไฝสีเทาเม็ดใหญ่อยู่กลางหน้าผาก ทำให้โดนเพื่อนล้อด้วยเหตุนี้เธอจึงเป็นเด็กติดบ้านที่หงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวที่สุดในโลก วันหนึ่งแมรี่เปิดสมุดหน้าเหลืองเพื่อสุ่มหาเพื่อนทางจดหมายในประเทศสหรัฐอเมริกา
เธอได้เขียนจดหมายและแนบช็อคโกแลตไปให้ผู้ชายที่ชื่อ แม็กซ์ โฮโรวิตซ์ แม็กซ์เป็นชายร่างอ้วนที่อาศัยอยู่คนเดียวในนิวยอร์ก เขามีปัญหาด้านบุคลิกจนเข้ากับใครไม่ได้ และมิตรภาพก็เริ่มขึ้นเมื่อเขาตอบจดหมายของแมรี่กลับไป
พร้อมช็อคโกแลตเช่นกัน เมื่อเด็กขี้เหงากับชายเจ้าปัญหาได้กลายมาเป็นเพื่อนคนสำคัญโดยไม่เห็นหน้ากัน ความสัมพันธ์อันงดงามของทั้งคู่จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมใน เด็กหญิงแมรี่กับเพื่อนซี่ ช็อคโก แม็กซ์ นะคะ
เด็กหญิงแมรี่กับเพื่อนซี่ ช็อคโก้ แม็ก แม้จะเป็นการเล่าเรื่องราวหม่นๆ และน่าหดหู่ของแมรี่กับแม็กซ์แต่อนิเมชั่นเรื่องนี้ยังให้ความรู้สึกประทับใจในความสัมพันธ์อันงดงามของทั้งคู่อีกด้วยนะคะ
และยังได้ยินมาว่าผู้กำกับได้แรงบันดาลในมาจากเค้าโครงเรื่องจริงทำให้อนิเมชั่นดินน้ำมันเรื่องนี้ดูมีเสน่ห์มากขึ้นไปอีก สำหรับฉากภาพและดลตรีประกอปก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะเพราะทำมาจากดินน้ำมันทำให้ดูมีมิติ ดลตรีประกอปเองฟังแล้วรู้สึกเหงาไม่น้อยไปกว่าเนื้อเรื่องเลยล่ะค่ะเนื้อหาอาจจะรุนแรงและน่าหดหู่ไม่เหมาะกับเด็กที่ต่ำกว่า 15 ปีนะคะ
ความรู้สึกหลังดู
หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของอดัม เอลเลียตมาแล้วหลายเรื่อง (“Harvey Krumpet”, “Brother”, “Cousin” และ “Uncle”) ฉันรู้สึกว่ามีแรงผลักดันอย่างมากในการดู “Mary and Max” ท้ายที่สุด รีวิวอนิเมะ
ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เหล่านี้ยอดเยี่ยมและเป็นต้นฉบับมาก และคุณจะรู้สึกติดใจเมื่อได้ดูมัน แม้ว่าคุณอาจจะไม่รู้ว่าทำไม ด้วยภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเอลเลียต ในที่สุดฉันก็มีโอกาสได้ดูผลงานที่ยอดเยี่ยมและแปลกประหลาดมากของเขาในเวอร์ชันยาว
ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นในออสเตรเลียและเกี่ยวข้องกับเด็กสาวที่โดดเดี่ยวมากชื่อแมรี่ พ่อแม่ของเธอไม่เก่งเรื่องการเลี้ยงลูกและส่วนใหญ่เธอให้ความบันเทิงกับตัวเอง อยู่มาวันหนึ่ง เธอฉีกชื่อออกจากสมุดโทรศัพท์ของอเมริกาและเขียนถึง “เอ็ม. ฮอโรวิตซ์” ซึ่งบอกเขาเกี่ยวกับตัวเองและถามเขาว่าทารกมาจากไหนในอเมริกา
เนื่องจากแม็กซ์ ฮอโรวิตซ์เป็นลูกคี่ที่ไม่เข้าสังคม การตอบสนองต่อจดหมายแปลก ๆ ของเขาของเขาจึงเป็นเรื่องน่าขบขัน และด้วยจดหมายที่ส่งถึงกัน พวกเขากลายเป็นเพื่อนกัน เด็กหญิงอายุ 8 ขวบและชายอายุ 40 ปีขึ้นไป และภาพยนตร์เรื่องนี้ประกอบด้วยการแสดงแต่ละงานเขียนและบรรยายจดหมายของพวกเขา
ธุรกิจที่แปลกประหลาดนี้ไปที่ไหน คุณจะต้องไปดูด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม โดยไม่ทำให้หนังสปอยล์ บอกได้เลยว่าไม่เคยคาดเดาได้เลยว่าหนังเรื่องนี้จะไปถึงไหนต่อ!! เช่นเดียวกับภาพยนตร์อดัม เอลเลียตทุกเรื่อง ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างแปลก ด้วยความแปลกประหลาดที่น่ายินดีที่คุณอดไม่ได้ที่จะชอบ และยิ่งกว่าหนังสั้นของเขา
คุณไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาใช้เวลาและความพยายามมากแค่ไหนในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ อัศจรรย์….จริงๆ และโชคดีที่งานของเขามีเอกลักษณ์และสร้างสรรค์โดยสิ้นเชิง นอกจากเรื่องสั้นเรื่องก่อนของเขาแล้ว ฉันยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย และฉันค่อนข้างมั่นใจว่าคุณจะรู้สึกแบบเดียวกันถ้าคุณได้ลองดูหนังที่แปลกประหลาดเรื่องนี้
อย่าพยายามเข้าใจหรือทำความเข้าใจมัน…มันอาจทำให้สมองของคุณระเบิดได้ โอ้และอย่าดูหากคุณรู้สึกหดหู่ แม้ว่าจะมีช่วงเวลาที่ตลกขบขันมากมาย แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างมืดมนมาก
คุณจึงควรคิดทบทวนให้ดีก่อนจะดู และถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะดูเหมือนเป็นหนังสำหรับเด็ก แต่ฉันคงคิดให้รอบคอบก่อนที่จะแสดงให้เด็กๆ ได้เห็น รีวิวหนังการ์ตูน