รีวิว 5 Centimeters Per Second
เชื่อว่าทุกคนคงจะไม่มีใครลืมรักแรกของตัวเองได้แม้จะเป็นรักที่ไม่สมหวังและผ่านมาเนิ่นนานเป็นสิบปีแล้วก็ตาม แต่เพราะเขาคนนั้นทำให้เรารู้จักกับความรักและความเจ็บปวดพร้อมบทเรียนสำคัญในชีวิตเป็นครั้งแรกมันจึงค่อนข้างชัดเจนในความทรงจำของทุกคน ดูอนิเมะออนไลน์
แม้อยากจะลืมก็ลืมไม่ได้ซึ่งก็คงเหมือนกับพระเอกในเรื่อง “5 Centimeters Per Second ยามซากุระร่วงโรย” ที่วันนี้เราจะมารีวิวหนังแนวอนิเมะญี่ปุ่นชื่อดังที่ตราตรึงใจหน่วง ๆ เคล้าน้ำตามาแล้วหลายประเทศรวมถึงเมืองไทยที่สายอนิเมะต่างยกย่องให้เป็นหนึ่งในดวงใจกันเลยทีเดียว
หนังอนิเมะ “5 Centimeters Per Second ยามซากุระร่วงโรย” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของ “ทากากิ” และ “อาการิ” ซึ่งผูกพันกันมาตั้งแต่ตอนเรียนชั้นประถมด้วยกัน เพราะเป็นเด็กตัวเล็กจึงมักถูกเพื่อนแกล้งอยู่เสมอจึงสนิทกันจนเป็นรักแรกของกันและกัน
แต่เมื่อขึ้นระดับมัธยมต้น อาการิก็ต้องย้ายโรงเรียนไปอยู่ในเมืองที่ห่างไกลแต่ทั้งคู่ก็ยังนัดเจอกันและได้จูบกันท่ามกลางหิมะโดยสัญญาว่าจะเขียนจดหมายถึงกันและรอวันที่จะได้ดูซากุระด้วยกันอีกครั้ง
ทว่าขากลับในระหว่างขึ้นรถไฟ ทาคากิก็ทำจดหมายของอาการิซึ่งมีที่อยู่ของเธอปลิวหายไปทำให้ทั้งคู่ขาดการติดต่อกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่เพราะสัญญาและความผูกพันที่เธอกับเขามีให้กันจึงทำให้เขาเอาแต่ติดอยู่ในคำสัญญานั้น
ความน่าสนใจของหนังอนิเมะ “5 Centimeters Per Second ยามซากุระร่วงโรย” อยู่ตรงที่ตัวหนังแสดงให้คนดูเห็นถึงความทรงจำเกี่ยวกับรักแรกซึ่งเกิดขึ้นกับหลายคน ทำให้เราที่ไม่เคยมีรักแรกได้เข้าใจว่าทำไมบางคนแม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีมีลูกมีภรรยาแล้วก็ยังคงพูดถึงรักครั้งแรกด้วยความสุขที่ไม่อาจลืม
ซึ่งต้องขอชื่นชมอาจารย์มาโคโตะ ชินไคที่เป็นผู้กำกับมากเลย แค่ได้ยินชื่อของท่านก็รู้แล้วว่าหนัง “5 Centimeters Per Second ยามซากุระร่วงโรย” ต้องมีความดราม่าและเรียลกินใจสูงปรี๊ดแน่นอนแล้วก็จริงด้วยเพราะพอเราดูจบไปเป็นอาทิตย์ก็ยังหน่วงและติดภาพเรื่องราวของนางเอกเหมือนตัวเองเป็นพระเอกอย่างนั้น การรอคอยที่จะทำตามคำสัญญาคู่กับการพยายามลืมเรื่องของรักแรกมันยากมากนะ
หากคุณยังคงปิดใจและเอาแต่สร้างกำแพงไม่รับสิ่งใหม่ ๆ เข้ามา เหมือนกับทาคากิที่แม้จะย้ายโรงเรียนไปอยู่บนเกาะห่างไกลตอนมัธยมปลายก็ยังคงคิดถึงอาการิเสมอ ถึงเขาจะพยายามเพิกเฉยและลืมเรื่องของเธอไปจวบจนเข้าสู่วัยทำงานมีแฟนแต่ด้วยใจเขาจริง ๆ
ยังมีแต่อาการิเสมอจึงทำให้เขาไม่สามารถทนฝืนคบกับคนอื่นได้อีก จนถึงขั้นไม่สามารถทำงานได้จึงลาออกเหมือนว่าทุกอย่างในชีวิตของพระเอกอยู่มาได้เพื่อหวังจะได้เจอนางเอกและดูซากุระด้วยกันอีกครั้ง
ต่างกับฝ่ายนางเอกที่ไม่ได้รับจดหมายจากพระเอกเลยจึงเลือกที่จะตัดใจและเริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่สนุกสนานจนแต่งงานกับคนที่รัก ไม่ยึดติดกับอดีตยิ่งได้ฟังเพลง One More Time, One More Chance ที่ประกอบหนังเล่าถึงชีวิตของแต่ละฝ่ายเพื่อสรุปตอนจบแบบไม่มีบทสนทนาก็ยิ่งทำให้เราขนลุกและน้ำตาไหลออกมาทันที
หนังอนิเมะ “5 Centimeters Per Second ยามซากุระร่วงโรย” ได้ให้ข้อคิดกับเราในเรื่องของการไม่ยึดติดอยู่กับอดีต จงปลดปล่อยตัวเองด้วยใจของเรา เพราะสายน้ำไม่มีวันไหลย้อนคืน คุณยังมีสิ่งใหม่ ๆ ที่ต้องทำและพบคนที่ดีอีกในวันข้างหน้า
หากยังอยู่กับอดีต ตัวคุณก็จะไม่สามารถเปิดใจรับอะไรได้จนชีวิตเกือบจะล้มเหลวเหมือนพระเอกอย่างไรล่ะ คำสัญญาไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นไปได้เสมอไปด้วยความเปลี่ยนแปลงของชีวิตเรา ฉะนั้นคำสัญญาจึงไม่มีน้ำหนักพอสำหรับอนาคตเมื่อคุณได้ทำมันจริง ๆ แม้จะไม่มีคำสัญญาแต่แค่ได้เจอกันโดยบังเอิญก็ทำให้คุณรู้สึกมีความสุขมากแล้ว
ไม่ใช่แค่ในเพลง ‘ลบไม่ได้ช่วยให้ลืม’ ของอิ้งค์ วรันธร แต่การ ‘มูฟออน’ ก็ไม่จำเป็นต้องลืมใครสักคนให้หมดไปจากหัวใจด้วยเหมือนกัน
เรารู้สึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาหลังจากอัดรายการ โลกคือการ์ตูน EP.3 ที่พูดถึง 5 Centimeters Per Second แอนิเมชันมาสเตอร์พีซของ ชินไค มาโกโตะ หนึ่งในผู้กำกับที่สร้างสรรค์เรื่องราวเศร้า เหงา ซึม ได้สวยงามที่สุด
เรื่องราวของหนุ่มน้อย ทาคากิ ผู้ใช้ชีวิตผูกติดอยู่กับคำสัญญาของดอกซากุระที่ร่วงหล่นด้วยความเร็ว 5 เซนติเมตรต่อวินาที ถึงแม้ร่างกายของเขาจะเติบโตขึ้นตามกาลเวลา แต่หัวใจของเขาเหมือนถูกแช่แข็งด้วยก้อนน้ำแข็งแห่งความทรงจำ ที่ยังคงมี อาคาริ เด็กสาวผู้เป็นรักครั้งแรกอยู่เต็มหัวใจ
การที่เด็กอายุ 13 ปีนั่งรถไฟข้ามจังหวัดไปหาคนรัก ไม่ยอมแพ้ถึงแม้หิมะตกหนักจนรถไฟดีเลย์ เช่นเดียวกับอาคาริที่ยังนั่งอยู่หน้าสถานี ถึงแม้คนที่เธอรอจะมาช้ากว่าเวลานัดหมายไปหลายชั่วโมง คือสิ่งที่ช่วยยืนยันว่าแม้แต่เด็กตัวเล็กๆ ก็สามารถทุ่มเทเพื่อความรักที่ยิ่งใหญ่ได้เหมือนกัน
หากแต่ความทุ่มเทไม่ใช่เครื่องหมายการันตีความสำเร็จของความรัก การที่ทั้งคู่ได้เจอกันในวันนั้นก็เป็นเพียงการพบเพื่อกอดลากันเป็นครั้งสุดท้าย และแยกย้ายกันไปใช้ชีวิตตามเส้นทางของแต่ละคน
ใน 5 Centimeters Per Second ไม่ได้บอกว่าหลังจากนั้นชีวิตของอาคาริเป็นอย่างไร แต่อย่างที่บอกว่าทาคากิแช่แข็งความทรงจำของอาคาริเอาไว้ ไม่ใช่เฉพาะในหัวใจของตัวเอง แต่ก้อนน้ำแข็งนั้นยังแผ่รังสีความเย็นชาที่หนาวไปถึงขั้วหัวใจของคนที่เข้ามาในชีวิตเขาหลังจากนี้
เริ่มตั้งแต่ 5 ปีต่อมา กับ คานาเอะ สาวน้อยนักโต้คลื่นที่มาตกหลุมรักเพราะทาคากิมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร แถมยังใจดีคอยเป็นห่วงเป็นใย ชวนกลับบ้านพร้อมกันอยู่บ่อยๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยมีสักครั้งที่ทาคากิจะมองเห็นคานาเอะอยู่ในสายตา
รีวิว 5 Centimeters Per Second
จนเวลา 11 ปีผ่านไป นอกจากน้ำแข็งในหัวใจจะไม่ละลาย ยังจับตัวหนาขยายเป็นก้อนใหญ่ จนเป็นที่มาของข้อความ ‘แชตหนักขวา’ จาก มิสึโนะ แฟนคนปัจจุบันที่ทำให้คนดูใจสลาย แต่ทาคากิก็แค่รับรู้ พับโทรศัพท์แล้วมองผ่านไปไม่คิดจะตอบกลับ รีวิวการ์ตูนออนไลน์
ทาคากิปล่อยให้ความทรงจำที่เคยสวยงาม ค่อยๆ กลายสภาพกลายเป็นความเศร้าฝังตัวอยู่ในผ้าปูที่นอน แปรง สีฟัน โทรศัพท์มือถือ และทุกอณูของชีวิต ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา
ขณะที่คานาเอะยังมี ‘คลื่น’ มากมายรอให้เธอโต้ไปข้างหน้า ทาคากิกลับเลือกกีฬายิงธนูที่โฟกัสไปที่เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือความรักที่มีให้อาคาริ
พอโตขึ้นมาเขาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ เขียนโปรแกรมด้วยภาษาคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน แต่ไม่สามารถกดปุ่ม ‘Delete’ ความทรงจำครั้งก่อน เหมือนคอมพิวเตอร์ที่หน่วยความจำเต็ม ไม่สามารถอัปเดตหรือพัฒนาความสัมพันธ์กับใครได้อีกแล้ว
ผิดกับอาคาริ ที่ถ้ามองในแง่ความทรงจำเธอเองก็ไม่ต่างจากทาคากิ ที่ยังไม่เคยลืมเรื่องราวความรักครั้งแรกไปจากหัวใจ ต่างกันตรงที่เธอไม่ได้ ‘แช่แข็ง’ ความทรงจำด้วยความหนาวเหน็บ แต่เก็บทุกเรื่องราวเป็นภาพสวยงามสดใส เป็นสายลมแห่งความอบอุ่นที่กลับไปนึกถึงเมื่อไรก็ทำให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นได้เสมอ
เธอหยิบจดหมายรักในวัยเด็กขึ้นมาอ่าน โดยที่นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนหมั้นสวมอยู่ แล้วเก็บความรู้สึกดีๆ ปิดฝาใส่ไว้ในกล่องความทรงจำ เดินต่อไปข้างหน้าไม่หยุดรอเจอคนรักเก่าเมื่อรถไฟผ่านไปจนหมดขบวน
เมื่อรู้ว่าภาพตรงหน้ามีเพียงรางรถไฟที่ว่างเปล่า ไร้เงาคนรักที่เขารอคอยมาทั้งชีวิต เหมือนเป็นสัญญาณบอกให้ทาคากิรู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องมูฟออนให้ได้สักที
ตราบใดที่คลื่นยังไม่หยุดซัดเข้าหาฝั่ง รถไฟยังวิ่งต่อไปไม่มีวันหยุด ดอกซากุระยังร่วงหล่นด้วยความเร็ว 5 เซนติเมตรต่อวินาที พร้อมกับที่เพลง One More Time, One More Chance จบลง
รอยยิ้มที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาในรอบหลายปี จะทำให้ทาคากิหันหลังกลับเพื่อใช้ ‘โอกาส’ และ ‘เวลา’ ที่มีไปกับปัจจุบันและอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า ถึงแม้ว่าจะไม่มีอาคาริยืนรออยู่ที่ฝั่งตรงข้ามของรางรถไฟ
ความรู้สึกหลังดู
ฉันเดาได้เพียงว่า “5 เซนติเมตรต่อวินาที” ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับวัยรุ่นและเด็กก่อนวัยรุ่น ดังนั้น ไม่ชอบหนังเรื่องนี้ก็ควรเอาเกลือเม็ดนึง เพราะผมเป็นผู้ชายอายุ 53 ปีที่ชอบดูหนังอนิเมะ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ชอบอนิเมะทั้งหมดก็ตาม สำหรับฉัน ภาพยนตร์เรื่องนี้แม้จะดูสวยงามแต่ก็เป็นเรื่องยากมาก รีวิวอนิเมะ
เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างเพื่อนร่วมชั้นสองคนคือ Akari และ Takaki เธอเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างจะงุนงงและไม่แน่ใจ และเธอก็สนใจทาคากิเพราะเขาเป็นคนเงียบๆ ครุ่นคิด และชอบกวี (ผู้ชายแบบผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะคิดว่าเสแสร้งอย่างไม่น่าเชื่อ)
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาย้ายไป พวกเขาสัญญาว่าจะอยู่ใกล้ ๆ และเขียนถึงกัน ความรักที่สมบูรณ์แบบและอมตะของพวกเขาสามารถยืนหยัดทดสอบเวลาและระยะทางได้หรือไม่? หรือพวกเขาเป็นเพียงวัยรุ่นสองคนที่ต้องการปล่อยมือและดำเนินชีวิตต่อไป?
ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้คือบทสนทนาที่แย่มาก มันทำให้ฉันประจบประแจงเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นในชีวิตของฉันเอง … ช่วงเวลาที่ฉันจะลืมไปทันทีเพราะฉันคิดว่าทุกอย่างช่างลึกซึ้งและสำคัญมาก เมื่อเวลาผ่านไป ฉันพบว่าวัยรุ่นที่พูดเหมือนกำลังจะตาย กวีที่เข้าใจผิดคิดว่าน่ารำคาญและเกลียดชังที่ฉันจำเรื่องนั้นได้บ้างในตัววัยรุ่นของฉัน!
โดยรวมแล้วเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่งดงาม (ดีกว่าภาพยนตร์ Ghibli หลายเรื่อง) แต่ยังมีความน่าสนใจที่จำกัดมากและตัวละครที่ค่อนข้างน่ารำคาญ แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีข้อความที่น่าสงสัยสำหรับเด็ก แต่ฉันให้ 7 แก่เด็กผู้หญิงวัยรุ่น 1 สำหรับผู้ใหญ่และ 4 สำหรับเด็กวัยรุ่นที่มักจะต้องการต่อยทาคากิและบอกให้เขามีรูปร่างขึ้น!
ฉันประทับใจผลงานก่อนหน้านี้ของมาโกโตะ ชินไค และได้ยินเรื่องดีๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูจบแล้วต้องขอบอกว่าไม่ผิดหวัง! แม้ว่าจะไม่มีองค์ประกอบของนิยายวิทยาศาสตร์ของเรื่องราวเหล่านั้น แต่ก็มีความลึกทางอารมณ์และภูมิหลังที่น่าทึ่งอย่างยิ่ง
ฉันไม่สามารถนึกถึงแอนิเมชั่นที่พวกเขาดูดีได้ ภาพยนตร์เรื่องนี้แบ่งออกเป็นสามตอน แต่ละครั้งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกันเล็กน้อยในชีวิตของทาคากิ โทโนะ
ในตอนแรก Takaki ได้สร้างมิตรภาพที่แนบแน่นกับ Akari เด็กสาวในชั้นเรียนของเขา เมื่อพ่อแม่ของเธอย้ายไป เธอย้ายไปเรียนที่โรงเรียนในเมืองห่างไกล ดูเหมือนมิตรภาพของทั้งคู่จะจบลง แต่วันหนึ่งทาคากิขึ้นรถไฟไปเยี่ยมเธอ เหตุการณ์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในขณะที่เขาอยู่บนรถไฟซึ่งกำลังล่าช้ากว่ากำหนดเนื่องจากหิมะตกหนัก
เรื่องที่สองเกิดขึ้นในสองสามปีต่อมาและทาคากิเป็นปีสุดท้ายของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาไม่ใช่ดาราของส่วนนี้ เกียรติยศนั้นตกเป็นของคานาเอะ เด็กสาวในชั้นเรียนที่ตกหลุมรักเขาแต่ไม่สามารถบอกความรู้สึกของเขาได้
เรื่องที่สามพบว่าทาคากิทำงานในงานที่เขาไม่สนุกเป็นพิเศษและยังคงคิดถึง Akari แม้ว่าเขาจะขาดการติดต่อกับเธอไปนานแล้ว ขณะที่ Akari กำลังเตรียมจะแต่งงาน อยู่มาวันหนึ่งทั้งสองเดินผ่านระดับข้าม; ทาคากิหันไปมองขณะที่รถไฟสองขบวนวิ่งผ่าน เธอจะมองจากอีกด้านหนึ่งเมื่อรถไฟผ่านไปหรือไม่?
ตัวเรื่องอาจไม่ลึกซึ้งแต่สัมผัสได้และบอกเล่าได้งดงาม ให้ความรู้สึกเหมือนจริงมากกว่าเรื่องราวแบบไลฟ์แอ็กชันส่วนใหญ่ ภาพนั้นน่าทึ่งมาก มันมีรายละเอียดจำนวนมากอย่างไม่น่าเชื่อรวมถึงวัตถุสะท้อนแสงมากมายที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นความท้าทายที่แท้จริงในการสร้าง
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของอะนิเมะหรือแอนิเมชั่นโดยทั่วไป นี่คือสิ่งที่ต้องดู ความคิดเห็นเหล่านี้อิงจากการชมภาพยนตร์เป็นภาษาญี่ปุ่นพร้อมคำบรรยายภาษาอังกฤษ รีวิวหนังการ์ตูน