รีวิว The King’s Avatar: For the Glory
ในส่วนของเรื่องย่อเมื่อ E-Sports ได้กลายเป็นกีฬาที่ได้รับการยอมรับเป็นอันดับที่ 78 ภายในประเทศจีน การแข่งขันของลีกของเกมส์กลอรี่ครั้งแรกก็ได้เริ่มเปิดฉากขึ้น เยี่ยชิว และ ซูมู่ชิว ในวัย 18 ปี ได้เข้าร่วมทีมอีสปอร์ตชื่อ “เจียซื่อ” ดูอนิเมะออนไลน์
โดยการแข่งครั้งนี้ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเค้าจะเข้าไปถึงในรอบรายการสุดท้ายของการแข่งขันแต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น…พวกเขาจะแก้ปัญหาครั้งนี้เพื่อก้าวสู้การเป็นแชมป์เกมส์กลอรี่ครั้งนี้ได้หรือไม่?
The King’s Avatar หรือ Quánzhí Gāoshǒu (全职高手) หรือในไทยรู้จักดีในนาม เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ นับเป็นหนึ่งในคอนเทนต์แรงจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เบิกศักราชของตัวเองจากนิยายออนไลน์เมื่อปี 2013 จากปลายนิ้วและมันสมองของ หูเตี๋ยหลาน จนถูกต่อยอดความฮิตมาถึงฉบับรูปเล่มที่ในไทยก็มีสำนักพิมพ์สยามฯ ซื้อสิทธิ์มาแปล และยังมีการต่อยอดไปอีกหลายสื่อทั้ง
แอนิเมชันซีรีส์ ไลฟ์แอ็กชันซีรีส์ และอื่น ๆ โดยเฉพาะตัวแอนิเมชันซีซันแรกเมื่อปี 2017 จำนวน 12 ตอนนั้นประสบความสำเร็จไม่น้อยมีกลุ่มแฟนติดตามพอสมควรและสามารถหาชมได้ทางบริการสตรีมมิงอย่าง WeTV (โดย 3 ตอนแรกมีให้ชมฟรีบนยูทูบด้วย)
ส่วนทางฝั่งไลฟ์แอ็กชันก็ถูกเน็ตฟลิกซ์คว้ามาลงแถมได้ทำยาว ๆ ถึง 40 ตอนเลยทีเดียว เรตติ้งก็ไม่ธรรมดาเพราะตัวแอนิเมชันสามารถทำคะแนนบน imdb ไปได้ถึง 7.8/10 และตัวไลฟ์แอ็กชันก็ได้คแนนไปถึง 8.2/10 ด้วย
และระหว่างที่เราได้แต่รอซีซันที่ 2 ซึ่งมีแพลนจะตามออกมาเร็ว ๆ นี้ เรายังมีโอกาสดีที่ได้ดูแอนิเมชันฉบับมูฟวี่ของเรื่องนี้ก่อนด้วยในชื่อ The King’s Avatar: For the Glory
ความสำเร็จของตัวแอนิเมชันซีรีส์เรื่องนี้ก็คงเป็นการผสมผสานแนวเทพเซียนที่ฮิตมาก ๆ ในหนังจีนกำลังภายในยุคใหม่ แล้วยังเอาเข้ากับการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตที่กำลังมาแรงไม่แพ้กันโดยเฉพาะในจีนที่มีค่ายยักษ์อย่าง Tencent สนับสนุนด้วยแล้ว
โดยตัวเกมกลอรี่ที่อยู่ในเรื่องก็ยังเป็นการกวาดเกมแนว เกมรบผู้เล่นหลายคน (MOBA), เกมภาษา (RPG) และเกมต่อสู้มุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS)
ที่เป็นที่นิยมในแนวของตัวเองมาผสมผสานเป็นเนื้อเดียวกัน และยังมีลีกการแข่งขันขนาดใหญ่เรียกว่าเหมือนวงการอีสปอร์ตในโลกจริงเลยล่ะ ทั้งนี้จากที่ดูฉบับแอนิเมชันมาก็พอเข้าใจได้ว่าหูเตี๋ยหลานใช้หัวใจของนิยายกำลังภายในแบบที่คนชอบมาพัฒนาแบบร่วมสมัย
ด้วยพลอตแบบยอดจอมยุทธ์ที่ถูกขับออกจากสำนักอย่างไม่เป็นธรรม (ผู้เล่นอันดับหนึ่งของเกมถูกขับออกจากทีมที่สังกัด)
และเขาก็เร้นกายปลอมตัวเป็นคนธรรมดาและอาศัยทำงานในโรงเตี๊ยมเล็ก ๆ เพื่อฝึกวิชาให้ต้นกล้าหน้าใหม่มีวรยุทธแข็งแกร่งขึ้นเพื่อกลับไปปราบอธรรม (ซ่อนชื่อและมาเป็นคนเฝ้าร้านเน็ตคาเฟ่คอยสอนผู้เล่นหน้าใหม่ที่มีแววเพื่อปั้นทีมกลับไปสู่สนามแข่ง)
ช่วงเวลาของการให้เทพตบเกรียนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวมาปากดีหาเรื่องก็เป็นตลกปนมันที่สร้างความอิ่มเอมให้เราสนุกอยู่ได้เสมอ ทั้งการที่ตัวเอกต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ก็เป็นเรื่องที่น่าติดตามและท้าทายสำหรับเราด้วย
รีวิว The King’s Avatar: For the Glory
ทว่าสำหรับในฉบับหนังแอนิเมชันฉายโรงนี้ จะกลับไปเล่าถึงก่อนการกำเนิดของเทพ เยี่ยชิว หรือพระเอกของเรา ในช่วงก่อนที่จะมาเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งของเกม เล่าถึงการมีเพื่อนที่กอดคอร่วมฝันจะสร้างความยิ่งใหญ่ให้ลีกการแข่งขันในฐานะโปรเกมเมอร์มาด้วยกัน โดยตั้งทีมรวมคนต่างนิสัยใจคอมาตะลุยลีกการแข่ง ทว่ากลับมีอุปสรรคเกิดขึ้นตามมามากมาย รีวิวการ์ตูนออนไลน์
โดยเฉพาะเรื่องไม่คาดฝันที่พลิกเรื่องราวอย่างจังในช่วงกลางเรื่อง ซึ่งดูจากภาพรวมการเล่าเรื่องจะเปลี่ยนจากแนว แอ็กชัน คอมเมดี้ เชือดเฉือน มากลายเป็นหนังแนวดราม่าเป็นหลักไปเลย สรุปเอาง่าย ๆ เลยว่าถ้าไม่ใช่แฟนเดิมของแฟรนไชส์มาดูครั้งแรกคือมีหลับล่ะ
แต่ในฐานะคนที่ติดตามแอนิเมชันซีรีส์มามันก็มีจุดที่น่าสนใจที่ฉบับทีวีซีรีส์ไม่ได้ให้ข้อมูลไว้เยอะพอควร โดยเฉพาะปูมหลังของเยี่ยชิวที่บอกตรง ๆ ว่ามีเซอร์ไพรส์เยอะเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังจะได้เจอตัวละครใหม่ ๆ เพียบที่เชื่อว่าจะมีบทบาทสำคัญ ๆ ในซีซันที่ 2 และเราจะได้ว้าวกับการที่หนังจบลงแล้วไปเชื่อมต่อกับแอนิเมชันซีซั่น 1 ได้แบบเข้าใจมากขึ้นด้วย
ส่วนด้านที่ต้องชื่นชมว่าคนจีนเก่งเอามาก ๆ คือการผลิตแอนเมชันแบบ 2 มิติผสม 3 มิติ ได้คุณภาพสูงใกล้เคียงเบอร์ใหญ่ในปัจจุบันอย่างญี่ปุ่นแล้ว ยิ่งในเวอร์ชันหนังโรงนี่มีการปรับลายเส้นให้พิถีพิถันขึ้นอีก ต้องบอกว่าสุดยอดมาก ๆ ยิ่งฉากในเกมการต่อสู้ต่าง ๆ มีฉากใหญ่ ๆ ที่น่าจดจำโดยเฉพาะไคลแม็กซ์ช่วงท้ายที่เป็นรอบชิงแชมป์
ทั้งยังการกลายร่างซูเปอร์ไซย่านี่คือตื่นเต้นสุด ๆ จุดที่น่าเสียดายในเรื่องแอ็กชันก็มีตรงที่หนังเล่าข้าม ๆ การแข่งช่วงแรกที่ไม่สำคัญไปเยอะมาก คือได้ดูสู้จริงจังก็เกือบจบเรื่องจริง ๆ แถมการอธิบายกติกาใด ๆ ในเกมสำหรับคนดูครั้งแรกก็เรียกได้ว่ามึนพอสมควร เหมือนว่าสร้างมาเอาใจแฟนเดิมมากกว่าสร้างแฟนกลุ่มใหม่อย่างชัดเจนเลย
ก่อนอื่นต้องพูดถึงดีไซน์ตัวละคร มีการปรับแต่งจากฉบับ ซีรี่ส์อนิเมชั่นพอสมควร โดยเฉพาะพระเอก เทพเยี่ยที่หน้าตาดูดีขึ้นเยอะ อาจจะได้อิทธิพลมาจากหยางหยาง เลยได้กลายเป็นเด็กหนุ่มที่ดูมีชีวิตชีวาดี ไม่เหมือนกับคนเป็นโรคซึมเศร้าในซีรี่ส์อนิเมชั่น
เทคนิกการทำก็ดูจะเป็นแบบสมัยนิยมขึ้น คือทำฉากที่มีรายละเอียดเยอะหน่อย แล้วยึดเป็นฉากหลัง ขยับตัวละครเอาเลยทำให้หลายๆ ฉากดูมีมิติขึ้น ต้องยกความดีให้กับคุณ Shi Juansheng ที่เคยผ่านงานอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Naruto มาแล้ว
ภาคนี้เป็นเนื้อเรื่องส่วนที่เราไม่เคยรู้มาก่อน และถือว่าทำได้น่าสนใจ เพราะในเรื่องหลักเราจะรู้ว่า ซูมู่ชิว (พี่ชายของ ซูมู่เฉิง) เพื่อนรักของ เทพเยี่ยเป็นผู้คิดค้น “ร่มแสนกล” ที่เป็นดั่งอาวุธมายา พลิกแพลงได้มากมายไม่เหมือนใครนั้น แท้จริงเป็นคนยังไง สนิทกับเยี่ยซิวแค่ไหน ทำไมในภาคหลักถึงหายไป ฯลฯ
ตอนแรกติดใจอยู่นิดหน่อยตรงที่เล่นมุกเด็กเฝ้าร้านเน็ตอีกละ แต่พอดูๆ ไปก็เหมาะแหละ และเป็นตัวชี้นำไปสู่ภาคหลักด้วยว่า ทำไมเทพเยี่ยถึงเลือกไปทำงานในร้านเน็ต
แต่ที่ปล่อยผ่านไม่ค่อยได้ดูจะเป็นบุคลิกของเจ้าของร้าน เจียซื่อ ที่ในภาคนี้ยังกะพระเอก แต่ในภาคหลักนี่้ตัวโกงชัดๆ มันดูขัดแย้งกันไปหน่อย
ที่จะชมคือบุคลิกของ เยี่ยซิว ดูวัยรุ่นเหมือนกับอายุดี มีความเกรียน มีเปิด PK ใส่ผู้เล่นอื่นเพื่อแย่งบอสด้วย เรียลสุดๆ
อ่อ ในภาคนี้เทพเยี่ยยังไม่ได้ใช้ร่มขี้โกงนะครับ
ในภาคนี้เป็นเรื่องราวก่อนที่สโมสร “เจียซื่อ” จะถูกสร้างขึ้น ย้อนกลับไปตอนที่ “เยี่ยซิว” อายุ 18 เขาหนีออกจากบ้านมาและได้พบกับ “ซูมู่ชิว” ซึ่งเป็นกำพร้าอยู่กับน้องสาว “ซูมู่เฉิง” แค่ 2 คน (ในภาคนี้ ซูมู่เฉิง ยังเป็นเด็กน้อยที่น่ารักเว่อร์ๆ ถ้าใครเคยดูภาคหลักแล้วจะรู้ว่าน้องคนนี้ไม่ธรรมดาเลย)
ทั้ง เยี่ยซิว และ ซูมู่ชิว หาเลี้ยงตัวด้วยการเป็นพนักงานในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่เล็กๆ ที่ชื่อว่า “เจียซื่อ” หลังจากที่เกม Glory เปิดให้บริการมาได้ 2 ปีก็ฮ็อตฮิตติดลมบน และในขณะนั้นกระแสของ Esport ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็วใจจีน
และเมื่อ Glory อยากจะทำให้บุคคนทั่วไปเห็นภาพได้ชัดขึ้นว่า Esport กับการเล่นเกมทั่วๆ ไปแตกต่างกันอย่างไร จึงตัดสินใจประกาศจัดการแข่งขัน Glory League ครั้งที่ 1 ขึ้น ซึ่งการเป็นนักกกีฬาอีสปอร์ต และได้แชมป์ถือเป็นความฝันของ ซูมู่ชิว มาตลอดหลังจากที่เริ่มเล่น Glory มาได้ 2 ปี
ด้วยฝีมือและความมุ่งมั่นของทั้ง ซูมู่ชิว และ เยี่ยซิว ในที่สุดเจ้าของร้าน เจียซื่อ จึงตัดสินใจตั้งสโมสรเพื่อเข้าร่วมลีกที่กำลังจะมาถึง แต่หนทางการตั้งสโมสรก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ พวกเขาต้องฝ่าฟันกันขนาดไหนกว่าที่สโมสร เจียซื่อ จะได้เป็นทีมชั้นนำอย่างที่เรารู้จักกัน ในภาคนี้มีคำตอบครับ
ความรู้สึกหลังดู
พัฒนางานภาพจากเวอร์ชั่นซีรี่ส์ขึ้นมาค่อนข้างมาก นำเสนอมุมมองของอีสปอร์ตค่อนข้างดี เกมเมอร์น่าจะมีโอกาสได้ดู
ฉันมาที่นี้หลังจากดู Donghua นี่เป็นพรีเควลของซีรีย์ดั้งเดิมดังนั้นฉันจึงมีความคาดหวังมากมาย ฉันก็ผิดหวัง มันน่าเบื่อเกินไป มีบางส่วนที่ช้ามากและบางส่วนที่รู้สึกเร่งเกินไป ฉันรู้สึกว่าพวกเขาต้องการเวลามากขึ้นในการสำรวจตัวละครพร้อมกับปฏิสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างพวกเขา
ภาพสวย เพลงเพราะ เลือกช่วงเนื้อเรื่องที่นำเสนอได้ดี เสียพากย์ไทยแหลกๆ ของจีนซับก็เปลี่ยนเร็วไป เหตุการณ์สำคัญบางอย่างก็เงินง่ายเกิดเร็วไปหน่อยไม่ค่อยบิวด์อารมณ์เท่าไหร่
คุณภาพทุกอย่างดูดีครับ เกมเมอร์ทั้งหลายถ้ามีเวลาน่าจะไปดูนะครับ เพราะ The King’s Avatar: For the Glory นี้มีมุมมองถึง อีสปอร์ตค่อนข้างมาก แล้วก็นำเสนอได้ดีว่า
ถ้าเราต้องการให้วงการอีสปอร์ตเป็นที่ยอมรับเราต้องเล่นมันให้ดี พัฒนามันให้ดี ไม่ต้องไปโวยวายเรียกร้องอะไร เพราะคนที่ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจครับ เราต้องดึงให้เขาเข้าใจโดยอย่าไปหัวร้อนใส่ ซึ่งที่ผมพิมพ์มานี่ไม่มีตัวละครไหนพูดในหนังหรอกนะ แต่เขาทำผ่านการกระทำน่ะ ฝากไว้ด้วยนะครับ
เสียงจีนดีมาก เพราะปกติหนังออกจากจีนเขาพากย์กันเป็นปกติอยู่แล้ว แต่คนจีนพูดเร็วผมยอมรับเลยว่ามีหลายช่วงที่อ่านซับไม่ทัน แต่ก็สามารถดูได้รู้เรื่องแหละครับ ไม่แน่ใจว่าเพราะเคยดูเวอร์ชั่นอื่นมาก่อนรึเปล่า?
ส่วนพากย์ไทย ก็ได้ไอดอลชื่อดังมาพากย์เช่นเคย แต่ถ้าดูจากหนังตัวอย่างผมว่ามันแปลกๆ อยู่เหมือนกัน แต่ก็อยากแนะนำให้ชมพากย์ไทยนะจะได้มองภาพได้ทั่วถึงไม่ต้องโฟกัสกับการอ่านมากเกินไป รีวิวหนังการ์ตูน