รีวิว UP ปู่ซ่าบ้าพลัง
ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Up (2009) ปู่ซ่าบ้าพลัง เปิดเรื่องราวมาที่ คาร์ล เฟรดริกเซน คุณปู่อายุใกล้ 80 ที่มีใจเต็มร้อยพร้อมที่จะออกเดินทางข้ามทวีปตามล่าหาความฝัน ไปกับการผจญภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่ต้องพบกับเหล่าว้ายร้ายและการตามล่าที่น่าตื่นเต้น ก่อนที่คุณปู่จะได้ค้นพบตัวเองในที่สุดว่าชีวิตการเป็นซูเปอร์ฮีโร่มันเพิ่งเริ่มต้นเมื่อถึงวัยชราดูอนิเมะออนไลน์
แต่สิ่งที่ทำให้การผจญภัยในครั้งนี้เป็นเสมือนฝันร้ายที่ไม่คาดคิดเลย นั่นก็คือ รัสเซลล์ ลูกเสือน้อยวัย 9 ขวบ นักผจญภัยที่กระตือรือร้นและมาพร้อมกับคำถามในทุกๆ เรื่อง เพื่อเตรียมตัวป่วนไปในทุกสถานการณ์ เรามาดูกันว่าคุณปู่ของเราจะทนกับความยุ่งของเจ้าหนูรัสเซลได้หรือไหม แล้วการผจญภัยของทั้งคู่ในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ต้องติดตามชมกับภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Up (2009) ปู่ซ่าบ้าพลัง
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้มีตัวละครที่น่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นคาร์ล เฟรดริกเซน เป็นคุณปู่อายุใกล้ 80 ที่รักภรรยามาก แต่หลังจากภรรยาของเขาก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง เขาก็พยายามทำทุกทางเพื่อให้ความฝันของภรรยาเป็นจริง ตัวละครต่อมาคือรัสเซล เป็นลูกเสือวัย 9 ขวบที่พร้อมที่จะผจญภัย แต่เขามีข้อเสียเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือเขาไม่เคยออกนอกเมืองไปไหนเลย
และตัวละครสุดท้ายที่จะมาแนะนำในวันนี้คือดั๊ก เป็นน้องหมาโกลเด้นแสนน่ารักที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่า พาราไดส์ ฟอลส์ โดยดั๊กมีปลอกคอไฮเทคที่สามารถแปลความคิดของเขาให้กลายเป็นคำพูดมนุษย์ได้ ภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Up (2009) ปู่ซ่าบ้าพลัง เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเมื่อปี 2552
หลายวันผ่านไป หลายคนคงสงสัย ว่าทำไมบล็อกนี้ถึงไม่เขียนถีง ‘Up’ สักที ทั้งที่มันก็ล่วงเลยผ่านวันเข้าฉายไปแรกไปเนิ่นนานแล้ว ไม่ใช่อะไรหรอกครับ บางครั้ง อารมณ์มันไม่มี ตัวหนังสือมันก็ไม่ออกมา เท่านั้นเอง
กว่าบทความนี้จะถูกเขียนจนจบก็คงใช้เวลาอีกนานทีเดียว เพราะฉะนั้น คนอ่านก็ค่อยๆ อ่านไปจนจบก็แล้วกันนะ
ด้วยความที่เป็นอนิเมชั่นจากค่าย Pixar ซึ่งผมเป็นแฟนเหนียวแน่นอยู่แล้ว เรื่องไหนๆ ผมก็ตีตั๋วเข้าไปดู เรื่องนี้ผมย่อมไม่พลาด อาจจะไม่ได้เข้าไปดูในวันแรกที่เข้า แต่ก็ถือว่า เข้าฉายเพียงไม่กี่วัน ผมก็อดใจไม่ไหวต้องไปดูเสียแล้ว หลายคนบอกว่า นี่เป็นอนิเมชั่นเรื่องที่ดีที่สุดเท่าที่ Pixar เคยสร้างมาเลยทีเดียว
ซึ่งผมเอง เมื่อได้เข้าไปดู ก็รู้สึกว่า มันให้ความรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ครับ เรื่องราวที่หลากหลายในด้านอารมณ์ กินใจในด้านเนื้อหา และฮาในด้านไดอะล็อก พวกเขามาทำได้ดีที่สุด ในเรื่อง ‘ปู่ซ่าบ้าพลัง’ นี่เอง
ถามตัวเองว่า เคยมั้ยที่ดูหนังอนิเมชั่นของฝรั่งแล้วน้ำตาซึมตั้งแต่ตอนต้น ผมตอบตัวเองว่า น่าจะยังไม่เคย ที่ตอบด้วยคำว่า “น่าจะ” ก็เพราะจริงๆ ผมเป็นพวกขี้ลืม เมื่อไม่แน่ใจว่าจะจำได้แม่นก็เลยขอใส่ “น่าจะ” เอาไว้ด้วย
‘ปู่ซ่าบ้าพลัง’ ทำให้ผมรู้สึกเช่นนั้น เพราะหนังเล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่ง นาม “คาร์ล” ผู้ใฝ่ฝันอยากจะมีโอกาสสักครั้งในชีวิตเดินทางไปไกลถึงอเมริกาใต้ ไปให้ถึง Paradise Fall ไปปลูกบ้านอยู่ที่ริมน้ำตก ความฝันอันนี้ เป็นความฝันเดียวกันกับเด็กผู้หญิงกะโปโลอีกคนหนึ่ง “เอลลี่”
ด้วยความฝันนี้ ดึงดูดคนสองคนให้มาเจอกัน รักกัน แต่งงานกัน แต่ความฝันก็ไม่เคยเป็นจริง
จวบจนเอลลี่ตายจากไป… คาร์ลในวัยชรานั่งอยู่คนเดียวในบ้านหลังเดิม น้ำตาไหลซึมด้วยความเศร้าไปกับชีวิตของคาร์ล … 10 นาทีที่ทีมงานเล่าเรื่องด้วยภาพ ไม่มีบทพูดใดๆ แต่กินใจมากมาย
รอบๆ บ้านเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ตึกสูงใหญ่กำลังถูกสร้างขึ้นรายรอบ? เงินที่เก็บหอมรอมริบ เพื่อวันหนึ่งจะได้ทำตามฝัน ก็ร่อยหรอลงไปทุกครั้งกับภารกิจต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแต่งงาน
ในที่สุด ความฝันก็เกือบจะถูกลืมเลือ ไม่เพียงความฝันถึงการผจญภัย แต่ยังรวมไปถึงความฝันที่จะมีลูกอีกด้วย เมื่อทุนนิยมรุกเร้า บ้านพักคนชรากำลังจะเป็นที่สุดท้ายของชีวิต แต่แล้ว ปู่คาร์ลก็ยกชีวิตช่วงสุดท้ายของตนให้กับความฝันที่รอคอยมาตลอดของชีวิต รุ่งเช้าวันนั้น ปู่คาร์ลกางลูกโป่งนับพันใบขึ้นมา มันพาบ้านหลังนั้นลอยขึ้นสู่ฟ้า เขากำลังเดินทางสู่อเมริกาใต้
รีวิว UP ปู่ซ่าบ้าพลัง
แต่คุณปู่ไม่ได้เดินทางเพียงผู้เดียว ยังมีเด็กน้อยอีกคนที่เดินทางไปด้วย “รัสเซล” ลูกเสือตัวน้อยที่รบเร้าอยากจะช่วยเหลือคนชราเพื่อหวังเข็มอันสุดท้าย แม้ปู่คาร์ลจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อเด็กน้อยขึ้นมาอยู่ในบ้านแล้ว ก็จำต้องรับไปด้วยกัน และกลายเป็นผู้ร่วมผจญภัยสู่ดินแดนมหัศจรรย์นั้นในเวลาต่อมา รีวิวการ์ตูนออนไลน์
เมื่อเดินทางร่วมกัน คุณปู่ก็เริ่มรู้จักลูกเสือตัวน้อยที่เคยเป็นตัวน่ารำคาญสำหรับเขามากขึ้น เด็กที่ครอบครัวแตกแยก เขาอาศัยอยู่กับพ่อและแม่เลี้ยง แต่เขากลับเหงาด้วยความเหินห่างของพ่อ ทางเดียวที่เขาจะได้เจอหน้าพ่อ คือวันมอบเหรียญเลื่อนชั้นลูกเสือ
เหลือเข็มอีกเพียงอันเดียว เขาจะได้เจอพ่อแล้ว…
แต่วันนี้ เด็กน้อยกำลังได้ช่วยเหลือคนชราพร้อมกับการเดินทางที่ยิ่งใหญ่ ความเหงาของผู้ใหญ่คนหนึ่ง กับเด็กอีกคนหนึ่ง กำลังเติมเต็มกันและกันด้วยการเดินทางครั้งนี้ มันมิได้เป็นเพียงการเตินทางตามฝันของคนแก่คนหนึ่งเท่านั้น
มันเป็นการเดินทางของจิตใจอีกด้วย เมื่อคนแก่มีฝันแสนเหงาที่หมกตัวอยู่กับอดีต พูดกับบ้านเสมือนหนึ่งพูดกับเอลลี่ ต้องมาผจญภัยกับเด็กไร้ความอบอุ่นจากความบ้านแตก เรื่องราวในครึ่งหลังจึงสอนอะไรเรามากมาย ค่อนข้างเป็นอนิเมชั่นของ Disney Pixar ที่เล่าเรื่องได้ลึกซึ้งมากกว่าเรื่องใดๆ ที่ผ่านมา พวกเขากำลังไปถึงอีกขึ้นหนึ่งแล้ว
ยังมีตัวละครอีกมากมายที่ยังไม่ได้ถูกผมพาดพึงถึง
ระหว่างการเดินทาง ยังมี “นกอีก๋อย” ตัวยักษ์ตัวหนึ่ง มันถูกชะตากับเด็กน้อย เขาตั้งชื่อให้มันว่า “เควิน” มันกลายเป็นตัวละครสำคัญไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ยังมีหมาน้อยชื่อ “ดั๊ก” หมาน้อยนิสัยน่ารักแต่ท่าทางออกเนิร์ดๆ ที่อยู่ฝ่ายร้ายและจิตใจใฝ่ดี ที่สำคัญมันกับพรรคพวกสร้างความขำขันให้กับเราได้มากที่สุด
ช่วงเวลาที่มีเจ้าหมากับนกอีก๋อย คือช่วงที่เราได้หัวเราะไปกับหนังจริงๆ แน่นอน เรื่องในหนังไม่มีวันเกิดขึ้นได้จริง บ้านที่ลอยด้วยลูกโป่ง นกอีก๋อยที่เชื่องกับคน หมาน้อยที่พูดได้ แต่คุณก็อินไปกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
หนังดึงคนสองขั้วมาเจอกัน เด็กน้อยขาดความอบอุ่นจากพ่อ กับ ชายแก่ผู้ยึดติดอดีตและไม่เคยได้เป็นพ่อ
การเดินทางของจิตใจยังไม่สิ้นสุด หากคุณยังไม่ได้เดินไปผจญภัยกับมันด้วยตัวเองหรอกครับ!
ความรู้สึกหลังดู
ในขณะที่ฉันลังเลที่จะให้คะแนนภาพยนตร์ 10 คะแนนมากกว่านักวิจารณ์ส่วนใหญ่ ให้เอาคะแนนของฉัน 9 คะแนนเป็นเสียงสนับสนุนสำหรับภาพยนตร์ CGI อันแสนหวานนี้จาก Pixar นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ 3 มิติเรื่องแรกของสตูดิโอและดูน่ารัก ภาพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วยบทนำที่แสนหวานแต่ได้อารมณ์เสียมากรีวิวอนิเมะ
คุณเห็นคาร์ล เฟรดริกเซ่นเป็นเด็กหนุ่มพร้อมกับความรักสองครั้งแรกของเขา การผจญภัยของนักสำรวจ ชาร์ลส์ มุนตซ์ และการพบกันของเขาและตกหลุมรักเอลลี่ ทั้งหมดนี้ทำได้โดยใช้บทสนทนาน้อยที่สุด และเป็นหนึ่งในส่วนที่ไพเราะที่สุดที่ฉันเคยเห็นมาในรอบหลายปี และเป็นครั้งแรกสำหรับบางสิ่งที่ลึกซึ้งและสะเทือนอารมณ์จากภาพยนตร์ที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ วาง Kleenex สองสามตัวไว้ใกล้ ๆ – คุณอาจต้องการมัน จากนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ก้าวไปข้างหน้าจนถึงปัจจุบัน คาร์ลตอนนี้แก่แล้วและอยู่คนเดียว
ชีวิตของเขาค่อนข้างเศร้าและเขาจมอยู่กับการสูญเสียล่าสุดของเอลลี่ โชคดีที่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้นานเกินไปหรือกลายเป็นคนมอมแมม แม้ว่าบางครั้งจะเข้ามาใกล้บ้างก็ตาม ตอนนี้ คาร์ลไม่มีสิ่งใดในชีวิตนอกจากความทรงจำและศาลผลักเขาให้เข้าบ้านพักคนชราโดยขัดกับความประสงค์ของเขา คาร์ลจึงคิดแผนบ้าๆ ขึ้นมา ที่จะลอยบ้านของเขาออกไปด้วยลูกโป่งหลายพันล้านลูกแล้วนำไปที่อเมริกาใต้!! น่าเสียดายที่แผนนี้ได้ผล คาร์ลก็ได้รับผู้โดยสารที่ไม่พอใจ (รัสเซลล์)
ตอนนี้รัสเซลเป็นตัวละครที่น่ารักอย่างยิ่ง แสดงผลได้อย่างยอดเยี่ยมและให้เสียงที่ไพเราะ คุณไม่สามารถช่วย แต่รักเขา แต่เนื่องจากคาร์ลอยู่คนเดียว ไม่มีบุตรและไม่พอใจ เขาจึงไม่ค่อยหลงใหลนักโบกรถคนนี้ ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงอเมริกาใต้และพบกับเพื่อนใหม่ เช่น นกยักษ์ที่แปลกประหลาดและสุนัข Dug แต่ในฐานะที่เป็นภาพยนตร์ครอบครัว คุณรู้ว่าต้องมีคนร้ายอยู่แน่ๆ และแน่นอนว่า Muntz ที่แก่ชรามากๆ ก็มาพร้อมๆ กันซึ่งดูจะเล็กน้อย…”สัมผัสได้” นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยที่น่าขนลุก และคุณจะต้องปรับแต่งเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
ในทางเทคนิคแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าเหลือเชื่อและแสดงให้เห็นว่าซอฟต์แวร์เดิม ๆ ไม่ได้ใช้ แต่เป็นซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ที่มีความชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ฉันชอบวิธีการผ่านหลักสูตรของภาพยนตร์ เช่น เคราของคาร์ลเริ่มที่จะเติบโตอย่างช้าๆ ตลอดจนการแรเงาและสีสันที่สวยงาม แม้ว่าฉันจะชอบ RATATOUILLE และ WALL-E สำหรับแอนิเมชั่นของพวกเขา แต่สิ่งนี้ก็ดูดีขึ้นมาก
แถมมาในรูปแบบสามมิติด้วย ฉันเพิ่งดูภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ Dreamworks เมื่อสัปดาห์ก่อน (MONSTERS VS. ALIENS) และ UP ก็ดูดีขึ้นอย่างมาก – ไม่มีอะไรเปรียบเทียบ สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่สร้างสรรค์และแปลกมาก ในทางที่ดี ฉันสามารถนึกถึงภาพยนตร์เรื่องอื่นที่คล้ายกับ UP ได้เลย และนั่นคือภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันที่ยอดเยี่ยมของฝรั่งเศส LE PAPILLON เป็นเรื่องเกี่ยวกับชายโสดสูงอายุคนหนึ่งที่มีเด็กที่น่ารักถูกทิ้งไว้บนตักของเขาและชอบ UP
ในตอนท้ายของหนัง ชายชราคนนั้นก็รับอุปการะจากเด็กเป็นหลัก ทั้งคู่ค่อนข้างคาดเดาได้ในแง่นั้น แต่ทั้งคู่ก็ทำให้มันใช้งานได้เนื่องจากการเขียนที่ยอดเยี่ยม เด็ก ๆ ที่น่ารัก และองค์ประกอบการวางแผนที่มีเอกลักษณ์และมหัศจรรย์มาก ใน UP มีสุนัขหลายตัวในหนังพูดได้ และเป็นเชฟที่เก่งมาก คุณเคยเห็นที่ไหนมาก่อนบ้าง! โดยรวมแล้ว
เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับแทบทุกวัย ฉันสังเกตเห็นในโรงละครว่าเด็กคนหนึ่ง (ประมาณ 4 ขวบ) อารมณ์เสียมากเมื่อจับนกน่ารักตัวนี้ได้ และเขาก็กรีดร้องและร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง โปรดระลึกไว้เสมอว่าหากคุณพาเด็กเล็กๆ ไปดู มันอาจทำให้น้ำตาไหลแม้ว่าจะไม่มีภาษาหยาบคายและความรุนแรงส่วนใหญ่มักไม่รุนแรง สำหรับ Pixar นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเขา หากชื่นชอบการรีวิวของเรา อย่าลืมติดตามการรีวิวของเราด้วยนะมาดูกันเลย!! รีวิวหนังการ์ตูน