รีวิว Kengan Ashura กำปั้นอสูร
ขอพาไปพบกับ อนิเมะ Kengan Ashura รีวิว อนิเมจากผลงานของ Netflix ดัดแปลงจากมังงะในชื่อเดียวกัน ส่วนชื่อไทยใช้ชื่อว่า “กำปั้นอสูรโทคิตะ” ที่เล่าเรื่องราวของเหล่านักสู้ในสังเวียนละเลงเลือดที่มันส์สะใจ แต่ยังมีการผสมผสานกับศึกทางธุรกิจในโลกความเป็นจริงของทุนนิยมเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมแบบไม่น่าเชื่อ ดูอนิเมะออนไลน์
เรื่องนี้ ทีมสร้างได้ตีความและดัดแปลงจากต้นฉบับมังงะออกมาดีมาก เรียกได้ว่าเป็นผลงานยอดเยี่ยมของ Netflix ในปีนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็ต้องรอซีซันหน้าที่จะปิดฉากเรื่องราวทั้งหมดกันต่อไป ส่วนในไทย มีฉบับลิขสิทธิ์ มังงะแปลไทย กับ สนพ.สยามอินเตอร์ เพิ่งออกมาเล่ม 1-7 และยังไม่จบภาค
เมื่อเรื่องในโลกแห่งความเป็นจริง ทุนนิยมกำลังครองโลก ทุกบริษัท องค์กร ห้างร้าน กลุ่มต่าง ๆ พากันขับเคี่ยวในสงครามธุรกิจที่รุนแรง ซึ่งในญี่ปุ่นเอง สงครามของเหล่าพ่อค้าได้มีมาตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน จนกระทั่งเกิดความรุนแรงและนองเลือด จากการแย่งชิงผลประโยชน์ทางการค้า กระทั่งใน ศตวรรษที่ 16 โชกุนโทกุงาวะได้เรียกเหล่าพ่อค้ามาประชุมจนกระทั่งเหล่าพ่อค้าทั้งหมดได้ทำความตกลงกันว่า
จะใช้การตัดสินด้วยวิธีการต่อสู้ ทำให้เกิดศึกสังเวียนเลือด ที่นำเหล่านักสู้จากทุกสารสิทศมาลงสังเวียนเพื่อประลองกัน โดยแต่ละคนจะเป็นเสมือนตัวแทนของร้านค้าหรือกลุ่มการค้านั้น ๆ ผู้ที่ชนะก็จะได้รับผลประโยชน์ ส่วนผู้แพ้ต้องยอมรับแต่โดยดี หากไม่ยอมรับก็จะถูกลงโทษ การจัดระเบียบให้โลกการค้าด้วยการต่อสู้ในสังเวียนนี่จึงเป็นที่มาทำให้เกิด “สมาคมเคนกัน” ขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นสมาคมที่อยู่เบื้องหลังโลกธุรกิจทั้งหมดที่สืบทอดต่อเนื่องมาอย่างลับ ๆ ถึงยุคปัจจุบัน
ซึ่งจนกระทั่งวันหนึ่ง ชายหนุ่มปริศนาชื่อว่า “โทคิตะ โอมะ” ซึ่งใช้วิชาการต่อสู้ที่ถูกเรียกว่า วิชานิโกะ ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้วได้เข้าร่วมในการประลองเคนกัน โดยไม่มีใครทราบว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร และอะไรที่คือที่มาของความแข็งแกร่งผิดมนุษย์ของเขา
การประลองเคนกัน ไม่ใช่ว่าใครก็จะเข้าร่วมได้ง่าย ๆ ซึ่งก็ทำให้ “ยามาชิตะ คาสึโอะ” พนักงานกินเงินเดือนวัยกลางคนของเครือสำนักพิมพ์โนกิ ถูกดึงเข้ามาใช้เป็นหมากในการเข้าร่วมประลองเคนกัน เขาถูกประธานของเครือโนกิสั่งให้เป็นตัวแทนของบริษัทยามาชิตะที่เพิ่งตั้งใหม่สด ๆ ร้อน ๆ พร้อมพ่วงมาด้วยหนี้สินก้อนใหญ่ในการตั้งบริษัท โดยมี โทคิตะ โอมะ เป็นนักสู้ในสังกัดคนแรกและคนเดียว เพื่อเข้าร่วมในการประลองแบบทัวนาเม้นต์ที่มีเป้าหมายสูงสุดคือ การเลือกตั้งประธานสมาคมเคนกันคนใหม่ ซึ่งทั้งสองคนจะต้องเผชิญหน้ากับเหล่ายอดนักสู้จากทั่วสารทิศและเหล่าผู้นำทางธุรกิจของกลุ่มบริษัท ไปจนถึงองค์กรนักฆ่าและกลุ่มที่เคลื่อนไหวในเงามืดของโลกทุนนิยม
อย่างนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพันของสองคนต่างวัย ต่างวิถีชีวิต ที่จะต้องร่วมกันเอาตัวรอดในการประลองเคนกัน ซึ่งรุนแรงและโหดร้ายทั้งในสังเวียนของเหล่านักสู้และสังเวียนการค้าของเหล่านักธุรกิจที่พร้อมวางแผนและใช้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมายโดยไม่เลือกวิธีการ
การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบอนิเมะแนว นักสู้ที่ใช้วิชาและศิลปะต่อสู้หลากหลายแบบทั่วโลกแล้วเข้ามาตะลุยประลองกันในสังเวียนชนิดละเลงเลือด ต้องไม่พลาดเรื่องนี้ครับ แถมเรื่องนี้ยังมีความโดดเด่นเป็นพิเศษที่แตกต่างจากการ์ตูนแนวนักสู้ในสังเวียนก็คือ การผสมผสานเอาโลกการแข่งขันในวงการธุรกิจเข้ามาเป็นแก่นหลักในเรื่อง ซึ่งมีความเข้มข้นไม่แพ้การประลองบนสังเวียน เต็มไปด้วยการชิงไหวพริบ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ที่สะท้อนโลกทุนนิยมออกมาอย่างเต็มที่
รีวิว Kengan Ashura กำปั้นอสูร
นี่คือที่สำคัญ มันทำให้เรื่องนี้มีความสมจริงและดูจับต้องได้อย่างยอดเยี่ยมครับ เพราะในโลกความเป็นจริงแล้ว เพียงแค่พละกำลังหรือคนที่เชี่ยวชาญวิชาต่อสู้นั้น หาใช่สิ่งที่ทำให้คน ๆ หนึ่งหรือองค์กรหนึ่งครองความเป็นใหญ่ได้ แต่ที่จริงคืออำนาจเงิน พลังของทุนนิยม มันสมอง และไหวพริบในทางธุรกิจและการเมืองรีวิวการ์ตูนออนไลน์
ในส่วนสำหรับคนที่ไม่ชอบเรื่องแนวนักสู้กล้ามโต ล่ำบึก สู้กันแบบเลือดสาด เรื่องนี้ยังมีจุดดีอีกอย่างคือ ไม่ขาดแคลนตัวละครสาว ๆ สวย ๆ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่ามีตัวละครหญิงค่อนข้างเยอะทีเดียวครับ แล้วแต่ละคนไม่ได้มาเป็นแค่ไม้ประดับในเรื่อง แต่มีบทบาทสำคัญต่อเรื่องเลยก็มี เพราะตัวละครหญิงบางคนเข้าร่วมในศึกเคนกันในฐานะตัวแทนบริษัทหรือเจ้าของธุรกิจนั้น ๆ ด้วย
ต่อมาในช่วงขณะที่การประลองยุทธ์ตะลุยสังเวียนชนิดละเลงเลือดในเรื่อง ก็เป็นเพียงเครื่องมือให้องค์กรธุรกิจและบริษัทต่าง ๆ ใช้เป็นเบี้ยในการทำให้ความต้องการของตนเป็นจริงเท่านั้น แต่เรื่องก็ไม่ได้นำเสนอแต่ในด้านโหดร้ายหรือดิบเถื่อนเข้าว่าอย่างเดียว มันยังมีการเล่าในแง่มุมของเหล่านักสู้ที่ควรจะเป็นในชีวิตจริง ที่มีทั้งแพ้ มีทั้งชนะ ไม่มีใครไร้เทียมทานตลอดกาล
โดยรวมเเล้ว ถึงการโยงเอาสังเวียนของเหล่านักสู้เข้ากับสงครามทางธุรกิจ ที่ก็ไม่ได้มีแต่การหักหลังหรือเอาแต่แสวงหาผลประโยชน์อย่างเดียวเช่นกัน แต่ยังมีมิตรภาพ ความเชื่อใจ ผลประโยชน์ร่วม และเล่าความสัมพันธ์ของคนเราในมุมที่ถึงจะดราม่า และมีการเล่าย้อน Flashback ของตัวละครเกือบทั้งหมดอยู่ตลอดเรื่อง แต่การเล่าก็ไม่ได้เป็นฟูมฟาย มีการสอดแทรกมุกตลกร้าย ทั้งในการเล่าเรื่องและงานภาพ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้ทำได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อครับ
เรื่องวิชาและศิลปะการต่อสู้ ที่ปรากฏในเรื่อง โอเค เข้าใจว่ามันคือการ์ตูน เพราะฉะนั้นหลายวิชาและหลายกระบวนท่า อาจจะไม่สามารถใช้ในการต่อสู้จริงได้ แต่ก็ถือว่าเป็นความพยายามสร้างสรรค์ที่ดี ตัวเอกอย่างโอมะ ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้เทียมทานมาตลอดแต่แรก วิชานิโกะ ซึ่งเป็นวิชาต่อสู้ประจำตัวของตัวเอกที่มีความพิสดาร เมื่อดูในเรื่องไปเรื่อย ๆ จะพบว่าวิชาของตัวเอกก็ไม่ได้ถูกพรีเซนต์ออกมาว่าเป็นวิชาไร้เทียมทานอะไร ตัววิชาก็ยังมีจุดอ่อน และยังมีวิชาอื่นที่มีจุดแข็งเหนือกว่าอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ในเรื่องจะมีการใส่แง่คิดของการพัฒนาวิชาต่อสู้ในแต่ละสาขาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ดังนั้นนักสู้เกือบทั้งหมดในเรื่องนี้จะมีลักษณะของการใช้วิชาต่อสู้แบบผสมผสานกันพอสมควร คือไม่ได้ยึดติดแค่วิชาที่ตัวเองใช้เท่านั้นครับดูอนิเมะ
ในส่วนตรงนี้ขอเพิ่มเติมให้ สำหรับคนดูชาวไทยที่อาจจะผิดหวังจากเรื่อง Baki ที่คนเขียนเรื่องนั้นเอาวิชาและนักมวยไทยไปปู้ยี้ปู้ยำราวกับว่าเก็บกดจากชีวิตจริงที่เห็นนักมวยไทยไล่ถล่มนักสู้ชาวญี่ปุ่นจากในสังเวียน K-1 แต่สำหรับเรื่องนี้สบายใจได้ครับ เพราะตัวละคร เก้าล้าน วงสวัสดิ์ นักมวยไทยในเรื่องนี้ถือว่าเป็นนักสู้ตัวระดับ Top คนหนึ่งที่เก่งกาจของเรื่อง แม้ว่าโดยบทบาทจะเป็นตัวประกอบรอง ๆ ที่ไม่ได้มีความสำคัญอยู่ในเส้นเรื่องหลัก แต่ก็ถือว่าได้นำเสนอมวยไทยออกมาได้ดีมาก ๆ (แล้วยังมีนักมวยพม่าด้วย ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกในโลกการ์ตูนญี่ปุ่นเลย)
ส่วนตัวสรุปแล้วว่า ภาพรวมเรื่อง Kengan Ashura กำปั้นอสูรโทคิตะ จะมีส่วนที่คล้ายกับเรื่องแนวต่อสู้ชื่อดังอย่าง Baki แต่จุดที่ Kengan Ashura นำเสนอและสร้างสรรค์ออกมาได้ดีกว่ามาก ๆ คือการโยงเอาเรื่องของการต่อสู้ในสังเวียนเลือดให้เข้ากับเรื่องธุรกิจและศึกระหว่างบริษัทต่าง ซึ่งเป็นชีวิตจริง ๆ ที่พวกเราทุกคนเจอกันอยู่ในยุคทุนนิยม เพราะฉะนั้นเรื่องนี้จึงมีส่วนที่โม้โอเวอร์ตามสไตล์การ์ตูนต่อสู้ กับส่วนที่คนดูจะอินได้ง่าย ๆ สำหรับเรื่องธุรกิจ การค้า การทำงาน และการเอาตัวรอดในสังคมทุนนิยมเลยครับ เพราะไม่ว่าตัวเอกหรือเหล่านักสู้ในเรื่องจะเก่งกาจและมีพละกำลังเหนือคนทั่วไปกันแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังเป็นเบี้ยและต้องทำงานอยู่ใต้คนที่กุมอำนาจเงินและบริษัทการค้าต่าง ๆ อยู่ดีนั่นเอง แต่เรื่องนี้ก็ไมได้นำเสนอสังคมทุนนิยมและโลกธุรกิจที่มันโหดร้ายไปซะหมด มันยังมีการเล่าในแง่มุมดี ๆ ที่น่าประทับใจเหมือนกันครับ
ซึ่งคือแค่คอนเซ็ปต์ของเรื่องก็น่าสนใจมากแล้ว แต่ตัวอนิเมะเรื่องนี้มันมีสเน่ห์แปลก ๆ ของทั้งตัวละคร ลายเส้น ดนตรีประกอบที่โคตร Heavy Metal หนักหน่วง เน้นมันส์ สเกลพลังไม่เวอร์ ฉากแอ็กชั่นในเรื่องคือทำดีมาก มันทั้งสวยงามและสะใจ สาแก่ใจผู้ชมแท้ อารมณ์โดยรวมสามารถนึกถึง บากิ ได้ เพียงแต่อาจจะตั้งอยู่บนพื้นฐานความจริงอยู่บ้าง ไม่ได้เวอร์อะไรมากมาย มีการนำศิลปะการต่อสู้จริง ๆ มาประยุกต์ในตัวละครด้วย
สำหรับคราวหน้า จะอัพเดทตัวละครสำคัญในเรื่อง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สร้างตัวละครต่าง ๆ ออกมาได้น่าสนใจและดีเยี่ยมมากครับ ไม่ใช่แค่ตัวนักสู้ แต่ยังรวมถึงเหล่านักธุรกิจและตัวแทนบริษัทต่าง ๆ ในเรื่อง ซึ่งมีการใช้ชื่อที่คล้ายกับบริษัทจริง ๆ เข้ามาทั้งเรื่อง ชนิดที่เราเห็นแล้ว ร้องอ๋อกันเลย
จุดเด่นของเรื่อง เนื้อเรื่องสุนก น่าติดตามมาก ตัวเนื้อเรื่องก็คาดเดาไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัวละครมีเสน่ห์น่าติดตาม ทั้งเหล่านักสู้และเหล่านักธุรกิจในเรื่อง เป็นการเอาเรื่องแนวนักสู้ในสังเวียนเลือด มาผสมกับศึกทางธุรกิจในโลกทุนนิยมได้ดีจนเหลือเชื่อ มีแง่คิดเกี่ยวกับศิลปะต่อสู้ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ถึงจะโอเวอร์ไปบ้าง ตัวเอกน่าเอาใจช่วย โดยเฉพาะยามาชิตะ คาสึโอะ ที่เป็นเสมือนตัวแทนคนดู แต่ก็มีบทเจ๋ง ๆ พอสมควร
และจุดด้อย วิชาต่อสู้หลายอย่างเหนือจริงเกินไป ตัวละครสู้กันดุเดือดรุนแรง แต่ฟื้นตัวกันเร็วเกินไปหน่อย เรื่องอยู่ในขอบเขตของสมาคมเคนกัน ทำให้นักสู้จากนานาชาติในเรื่องแทบไม่เกี่ยวข้องกับเส้นเรื่องหลัก
ความรู้สึกหลังดู
ในฐานะที่เป็นแฟนตัวยงของ Kengan Ashura มังงะที่แย่ที่สุดของฉันและแฟนๆ คนอื่นๆ อาจกลัวว่าการดัดแปลงอะนิเมะจะเป็นแอนิเมชัน เพราะในมังงะรูปแบบศิลปะนั้นงดงามมาก และคุณภาพของฉากต่อสู้นั้นเหนือชั้นมาก อนิเมะที่สร้างในรูปแบบ 3 มิติทั้งหมด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะล้มเหลวอย่างน่ากลัว ดังนั้นเมื่อ Netflix ให้อะนิเมะในรูปแบบ 3 มิติเป็นสีเขียว มันเหมือนกับวันที่แย่ที่สุดที่เคยมีมาสำหรับฐานแฟน ๆ แต่ตอนนี้หลังจากจบ 12 ตอนแรก ฉันต้องบอกว่าฉากต่อสู้แอนิเมชั่น 3 มิติก็ไม่เลว อันที่จริงมันค่อนข้างสดและไม่เหมือนใคร tbh แน่นอน ฉันยังคงชอบอนิเมะที่สร้างด้วย 2D แบบดั้งเดิมในมือเหมือนในสตูดิโอ: Mad House, Wit หรือ Trigger…… แต่นี่เป็นความพยายามที่ดีที่สุดที่เรามีกับซีรีส์นี้ ตอนนี้และฉันหวังว่าแฟน ๆ คนอื่น ๆ และผู้ที่เกลียดชังอนิเมะ 3 มิติให้โอกาสรีวิวอนิเมะ
แม้จะมีตอนที่แย่มาก น่าเบื่อ และซ้ำซากในครึ่งแรกของทั้งสองซีซั่น แต่ก็เป็นอนิเมะแอ็คชั่นและการต่อสู้ที่ดี เราไม่ค่อยเห็นพระเอกเท่าไหร่ ถึงแม้ว่า… วิธีการบรรยายการแข่งขัน Kengan (โดยการนำเสนอผู้เข้าแข่งขันที่เข้าร่วม เทคนิคการต่อสู้และภูมิหลังของพวกเขา) นั้นน่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริงๆ สิ่งที่ฉันไม่ชอบจริงๆคือการใช้ CG นี่อาจดูดีในฉากต่อสู้ แต่น่ากลัวจริงๆ สำหรับตอนที่เหลือของตอน พวกเขาสามารถทำได้สำเร็จ (พูดแบบกราฟิก) มากขึ้นโดยหลีกเลี่ยงพวกเขา และในที่สุดก็มีโฆษกหญิง – ซายากะ คาทาฮาระ ซึ่งเสียงภาษาญี่ปุ่นที่น่ารำคาญและน่ารำคาญมาก ฉันต้องกรอไปข้างหน้าทุกทางเข้า/ประกาศของนักสู้ รอชมภาค 3 ต่อเร็วๆ นี้ 🙂
แนะนำจริงสำหรับใครที่ชอบดูอนิเมะญี่ปุ่นแนวแอ็กชั่น/ต่อสู้จัด ๆ หน่อยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง Kengan Ashura อัดแน่นไปด้วยคุณภาพในทุกกระบวนการ สนุก คุ้มค่าแก่การรับชมแน่นอน ถ้าคุณชอบความถึงใจ หรือการรีวิวอนิเมะ หนัง ซี่รี่ส์ หรือสปอย วิเคราะห์ข่าวสาร ทุกเรื่อง ทุกแนว ทั่วโลก สามารถติดตามการรีวิวของเราได้มาดูกันเลย!! รีวิวหนังการ์ตูน