รีวิว เรียกเธอว่าพระเจ้า
วันนี้ขอมาแนะนำภาคต่อของสึซึมิยะ ฮารุฮิ อย่างตัวอนิเมชั่นที่แสนสนุก ลุ้นและแสนประทับใจจนทำให้ตกอกตกใจว่าทำไมการ์ตูนเรื่องนี้ถึงได้สนุกขนาดนี้ บอกไว้ตอนนี้ก่อนเลยว่าการ์ตูนอนิเมะ เรื่องนี้ ถูกสร้างขึ้นมา นานแล้วเมื่อปี 2005 นับเป็นการ์ตูนที่เก่าและยังคงเอาไว้ซึ่งความเก๋า ตามแบบฉบับ ของอนิเมะ ยุค2000 ต้นๆ ทั่วไปๆ ทว่าเนื้อเรื่องและการดำเนินเรื่องของการ์ตูนอนิเมะเรื่องนี้นั้น มีความน่าสนใจอยุ่ไม่น้อย ถ้าอยากชมกัน สามารถติดตามรับชมได้ทุกตอน ที่ ดูอนิเมะ
The Melancholy of Haruhi Suzumiya หรือชื่่อภาษาไทยที่ทุกคนอาจคุ้นเคยกันว่า เรียกเธอว่าพระเจ้า สึซึมิยะ ฮารุฮิ หนึ่งในการ์ตูนสุดฮิต ของปี 2006 และได้สร้างบรรทัดฐานการ์ตูนคอมมาดี้สมัยใหม่ที่ควรเอาไปเป็นแบบอย่างเลยก็ว่าได้ ด้วยการนำชีวิตในรั้วโรงเรียนมาผูกปมเรื่องราวหลักทางวิทยาศาสตร์และเรื่องเหนือธรรมชาติมาผสมผสานกันอย่างกลมกลืน จนสามารถกวาดรางวัลอนิเมชั่นมานับไม่ถ้วน แถมได้รับการตอบรับอย่างมากมายมหาศาลจากผู้ชมทั่วโลกอีกด้วย ดูการ์ตูนออนไลน์
ก่อนอื่นผมขอพาทุกคน ไทราบถึงข้อมูลเบื้องต้นเพื่อฟื้นความจำกันอีกครั้ง พร้อมกับคำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้มา มีถึงสองภาคด้วยกัน เพราะไม่อย่างงั้นอาจได้สัมผัสกับนรกจริงๆ
เรื่อง: การหายตัวไปของสึซึมิยะ ฮารุฮิ – Suzumiya Haruhi no Shoushitsu
สตูดิโอ: Kyoto Animation
ต้นฉบับไลท์โนเวล: Nagaru Tanigawa
ต้นฉบับดีไซน์คาแรคเตอร์: Noizi Ito
แนว: romance, action, mystery, sci-fi, supernatural, school life, comedy, slice of life
ลิขสิทธิ์: netflix
คะแนน imdb: 7.8
คะแนน myanimelist: 8.68
รับชมได้ที่ ดูอนิเมะออนไลน์
รีวิว เรียกเธอว่าพระเจ้า ฮารุฮิ เนื้อเรื่องโดยย่อ
เหตุการณ์เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 16 ธันวาคม เมื่อฮารุฮิเตรียมงานกินเลี้ยงหม้อไฟกันในห้องของชมรมหน่วยเอสโอเอสภายในวันที่ 24 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในคริสมาสต์ แม้ว่าทางโรงเรียนจะห้ามจุดไฟภายในอาคารก็ตาม จนกระทั่งเช้าวันที่ 18 ธันวาคม เคียวได้มาถึงโรงเรียนและพบว่าทุกสิ่งเปลี่ยนไป นันก็เพราะ สึซึมิยะ ฮารุฮิ และ โคอิซึมิ อิสึกิ ต่างหายสาญสูญไปจากโลกนี้อย่างไร้ร่องรอยและไม่มีใครรับรู้นอกจากตัวของเคียว
ใครในห้องนี้เป็นมนุษย์ต่างดาว นักเดินทางข้ามกาลเวลา ผู้มาจากต่างมิติ และผู้ใช้พลังจิต ให้มาหาฉัน……จบ” ประโยคแนะนำตัวสุดประหลาดของ “สึซึมิยะ ฮารุฮิ” ในวันเปิดภาคเรียนชั้นม.4 ที่โรงเรียนมัธยมปลายเหนือ จากคำบอกเล่าของคนที่เคยเรียนกับฮารุฮิม.ต้น ทำให้ เคียวน์ (พระเอก) รู้ว่าฮารุฮิเป็นหญิงสาวประหลาดที่ไม่สนใจคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม เคียวน์ ที่นั่งติดกับฮารุฮิเสมอ ก็เริ่มชวนฮารุฮิคุยในหลายเรื่อง จนเริ่มพูดคุยกันมากขึ้น
สึซึมิยะ ฮารุฮิ เป็นนักเรียนหญิงชั้นมัธยมปีที่ 4 ผู้ที่มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆรอบตัวจากจิตใต้สำนึกได้โดยที่เธอไม่รู้ตัว เธอได้ก่อตั้งชมรมที่เรียกว่า หน่วยเอสโอเอส (SOS dan) ย่อมาจาก “Sekai wo Ooini moriagerutame noSuzumiya Haruhi no dan” แปลว่า “หน่วยของสึซึมิยะ ฮารุฮิ เพื่อทำให้โลกนี้สนุกสนานครื้นเครงยิ่งขึ้น” โดยมีจุดประสงค์เพื่อค้นหาปรากฏการณ์ประหลาดเหนือธรรมชาติ, มนุษย์ต่างดาว, ผู้เดินทางข้ามกาลเวลา, มนุษย์ต่างมิติ และผู้มีพลังพิเศษ
ฮารุฮิได้บังคับเคียว เพื่อนร่วมชั้น(ผู้เล่าเรื่อง) และสมาชิกอีกสามคน ได้แก่ หนอนหนังสือไร้อารมณ์ นางาโตะ ยูกิ, สาวน้อยขี้อาย อาซาฮินะ มิคุรุ และ นักเรียนอารมณ์ดีที่ย้ายเข้ามาใหม่ โคอิซึมิ อิซึกิ เข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม หลังจากนั้นทั้งสามได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงแก่เคียวน์ ว่าไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาแต่เป็นกลุ่มที่ฮารุฮิกำลังค้นหาอยู่ นั่นคือ มนุษย์ต่างดาว, ผู้เดินทางข้ามกาลเวลา และผู้มีพลังพิเศษ ซึ่งส่งมาจากองค์กรลึกลับต่างๆเพื่อศึกษาสามารถพิเศษของฮารุฮิและยับยั้งฮารุฮิจากการเปลี่ยนแปลงโลกโดยไม่รู้ตัว โดยพยายามทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่อย่างคนปกติ
ชื่อเรื่องว่าเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของ สึซึมิยะ ฮารุฮิ และกลุ่มคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเธอ ในขณะที่ฮารุฮิเป็นตัวละครหลักที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง วิธีการดำเนินของเรื่องนี้จะถูกเล่าในมุมมองของพระเอกอย่าง “เคียวน์” ซึ่งเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมชั้นของฮารุฮิแทนครับ เคียวน์ก็เหมือนกับคนทั่วไปในวัยเดียวกันที่ได้เลิกเชื่อเรื่องเกี่ยวกับองค์กร ลึกลับ, ผู้เดินทางจากอนาคต และการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างมนุษย์ต่างดาว ว่าง่ายๆ ก็คือใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนแบบเรียบง่ายนั้นเอง
แต่ทว่าชีวิตประจำวันของเขาก็ได้เปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่ออยู่มาวันหนึ่งเจ้าตัวเข้าไปทัก สึซึมิยะ ฮารุฮิ เพื่อนร่วมห้องที่แปลกประหลาดคนหนึ่ง นับตั้งแต่วันแรกก็แสดงนิสัยและพฤติกรรมไม่เหมือนใคร ซึ่งบ่งบอกออกมาเลยว่าตนเป็น “เด็กสาวผู้มีปัญหาการเข้าสังคม” พร้อมกับเสนอแนวทางไปว่าให้ตั้งชมรมของเธอขึ้นมาเพื่อทำในสิ่งที่ชอบได้อย่างอิสระ ดันไปเข้าตาโดยบังเอิญของฮารุฮิ จึงทำให้ชวน (แต่ผมว่าเหมือนจะเป็นแนวบังคับมากกว่า ฮา) เคียวน์ เข้าร่วมชมรมด้วยกันแบบไม่มีทางให้ปฎิเสธ
สึซึมิยะ ฮารุฮิเองนั้นก็เป็นคนที่รู้ตัวและเบื่อกับเหล่า สิ่งที่ต้องทำซ้ำๆแบบเดิมๆทุกๆวัน หรือเรียกว่าเธอเบื่อกับการใช้ชีวิต ต่าง ๆ ที่เธอต้องมาอยู่กับมันโดย ไม่สามารถหนีจาก ความเป็นจริงอันน่าเบื่อเหล่านี้ ไปไหนได้เลย หนึ่งในสิ่งที่ ทำให้เธอกลายมาเป็นอย่างนี้ ได้ก็คือเหตุการณ์หนึ่ง ในสมัยเด็กของเธอที่ทำให้ ฮารุฮิซึมฌศร้า ลงไปจากปกติเมื่อเธอรู้ตัวเอง ว่าในความเป็นจริงแล้ว ตัวเธอเองนั้นมีตัวตนที่ เล็กน้อยกระจ้อยขนาดไหน แต่ความหวังเล็ก ๆ ที่ยังมีอยู่เลือนลาง เหลืออยู่ในตัวเธอก็ได้ จุดประกายแสงว่าง ให้ฮารุฮิเปลี่ยนตัวเองแล้วลุกขึ้นสู้ กับความเบื่อหน่ายในชีวิต เพื่อแสวงหา และไขว่คว้า เอาความสุขที่ เธอต้องการมาเป็นของตัวเองให้ได้
ตำแหน่ง “พระเจ้า” ที่เหล่าสมาชิกชมรม แอบมอบให้ฮารุฮิ นั้นมีความหมายแทนถึงการเป็น บุคคลที่มีความสำคัญ ต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก โลกทั้งใบ ตัวตนของทุกคนนั้นเกิดมาได้ ก็เป็นเพราะพลังอำนาจของพระเจ้า และชะตากรรม ของโลกนี้อาจจะเข้าสู่จุดจบสิ้นได้หากไม่มีพระเจ้าอยู่ แต่พระเจ้าที่พวกเขามี อยู่ดันเป็นประเภทที่ไม่รู้จักพลังตัวเอง ไม่คิดด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นพระเจ้า และมีผลอย่างไรกับโลกใบนี้ แถมเป็นพระเจ้าที่เอาแต่ใจ อยากจะทำอะไรก็ทำอยู่ตลอด เลยทำให้สมาชิกของกองกำลังจำเป็นจะต้องคอยตามเอาใจ “พระเจ้า” องค์นี้ไม่ให้กริ้ว แต่ในขณะเดียวกันก็คอยระวังไม่ให้มีอะไรมากระทบกระทั่งจิตใจพระเจ้าจนสิ้นหวัง รวมไปถึงต้องควบคุมพระเจ้า หรือเรียกว่าแนะนำห่างๆ อย่างห่วงๆ ไม่ให้เผลอใช้อำนาจซี้ซั๊ว จนเปลี่ยนแปลงโลก มากเกินไปอีกด้วย
ความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียน
ความสนุก ความประทับใจ ความยอดเยี่ยมของเนื้อหา การดำเนินเรื่อง พลอต ไปยันอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร สามารถขมวดปม ผูกปม บีบเค้นความรู้สึกของผู้ชมได้อย่างละเมียดละไม ทั้งที่เป็นตัวอนิเมชั่นที่โคตรยาว ที่มีความยาวในการฉายถึงเกือบ 3 ชั่วโมงก็ตาม แต่ทุกวินาทีที่ได้รับชม กลับอัดแน่นไปด้วยความสนุก ความลุ้น ความอึดอัด ความกดดัน เปี่ยมไปด้วยปริศนา การบิดผันของกาลเวลา ไทม์ไลน์แสนซับซ้อน จนไม่รู้สึกเบื่อหรือง่วงเหงาหาวนอนแต่อย่างใด รีวิวอนิเมะเอเชีย
ด้วยวิธีการเล่าที่แสนแพรวเต็มไปด้วยชั้นเชิง การทับซ้อนของเหตุการณ์ การหักมุมหลายต่อหลายชั้น การเล่นเกี่ยวกับการข้ามกาลเวลากับมิติที่มีความพัวพันในระดับหลายเลเยอร์ที่ชวนให้ครุ่นคิดและจุดพลิกผันที่ชวนให้ตะลึง โหว…. ผมอึ้งไปเลยว่าทำไมมันสนุก มันยอดเยี่ยม มันน่าสนใจถึงขนาดนี้ ไม่มีปวดตับ มีแค่ความอึดอัดกดดันผสมดราม่านิดหน่อย แต่รสชาติออกมากลมกล่อมมาก
อีกทั้งยังใส่ปมของตัวละครเอกต่างๆ ออกมาครบทุกคน ไล่ตั้งแต่อิสึกิ คุรุรุจัง ฮารุฮิ เคียวและโดยเฉพาะนางาโตะ ที่เล่าออกมาอย่างละเอียดละออ จนเราเข้าใจว่าเพราะอะไร เหตุใดและทำไม จึงพัดพาให้พวกเค้าพวกเธอทั้ง 5 คนที่มีความแตกต่างทั้งภูมิหลัง อุปนิสัยใจคอ ทัศนคติและตัวตน ถึงได้พัดพากันมาอยู่รวมภายใต้ชมรมแสนบ๊องอย่าง S.O.S ของฮารุฮิได้แสนจับใจที่ใส่ความ sci-fi ของการข้ามกาลเวลาออกมาได้แสนน่าทึ่ง
นอกเหนือไปจากนั้นแล้วสิ่งที่ทำให้อนิเมชั่นแสนยาวเหยียดดุไม่น่าเบื่อคือการเล่นเกี่ยวกับอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร เกี่ยวกับความอึดอัด ความกดดัน ปมในจิตใจ ความรู้สึกนึกคิดและความปรารถนาต่างๆ ออกมาได้ดีมากๆ ที่ไม่ว่าจะเกิดปัญหาหลุดโลกและเหนือจริงแค่ไหน ที่ไม่ว่าจะเจ็บปวดเพียงใด แต่การทำเพื่อเพื่อนและทำเพื่อคนที่ตนหลงรักก็ทำให้เรื่องราวมันเต็มไปด้วยอารมณ์แสนละมุนละไม จนเต็มไปด้วยความน่ารัก ความอ่อนโยนและเสน่ห์ที่ทั้งนางาโตะ คุรุรจังและฮารุฮิ น่ารักมากๆๆ จนหาไม่ได้ในภาคหลัก
ถึงจะเป็นอนิเมะยาวแท้ๆ กลับไม่รู้สึกง่วงหรือเบื่อแม้แต่วินาเดียวกลับมีแต่ความรู้สึกโคตรของโคตรสนุกดูแล้วเต็มอิ่มทางความรู้สึกมาก แต่การจะดูอนิเมชั่นเรื่องนี้ให้อินแบบบ้าคลั่งอย่างน้อยต้องผ่านการดูความสัมพันธ์ของตัวละครจากเวอร์ชั่นอนิเมะ ฮารุฮิ ปี 2009 ทั้งหมด 28 ตอนมาก่อนให้ครบ แล้วจะเข้าใจเรื่องราวกับอารมณ์ของตัวละครทั้งหมดได้อย่างดี แถมมันยังทำให้ผมเข้าใจว่าทำไมซีรี่ย์นี้ถึงได้เคยกลายเป็นไอค่อนของยุคสมัยเพราะมันสนุกและน่าสนใจถึงขนาดนี้นั่นเอง จนสงสัยว่าทำไมตัวอนิเมะมันไม่เล่าให้ได้อย่างเยี่ยมแบบตัวอนิเมชั่นกันนะ ไม่งั้นละก็คงดังกว่านี้ไปแล้ว พูดได้สั้นๆ คือ การได้ดูอนิเมชั่นตัวนี้มันเปลี่ยนให้ผมหลงรักซีรี่ย์ฮารุฮิแบบล้นหัวใจเลยละครับ เพราะมันสนุกและน่าสนใจจริงๆ รีวิวอนิเมะออนไลน์