Raya and the Last Dragon

ช่วงโควิดนี้ ทำให้หนังหลายๆเรื่องในวงการภาพยนตร์ ไม่สามารถที่จะถ่ายทำได้ แต่ปัญหานี้ไม่ใช่สำหรับ หนังการ์ตูน แอนิเมชั่น ที่ ทีมงานหรือการถ่ายทำจะใช้เอฟเฟค และการเขียนวาดภาพ โดยทีมงานมือฉมัง และวันนี้ผมนำ หนังการ์ตูน เรื่องใหม่ ที่เพิ่งเข้าฉายไป มารีวิวให้ทุกคนได้อ่านกันก่อนตัดสินใจไปรับชม ซึ่งเนื้อหาและเรื่องราวในเรือง Raya and the Last Dragon หรือชื่อไทย รายาและมังกรตัวสุดท้าย จะเป็นอย่างไร ต้องไปติดตามที่ ดูอนิเมะ

การหลอมรวมใจของผู้คนที่แตกแยกรวมกันเป็นหนึ่งเดียว หมายจะบ่งบอกผู้คนที่คิดต่างกัน ผู้คนที่อยู่กันคนละชาติคนละภาษา ให้กลับมาสมัครสมานสามัคคีกันอีกครั้ง แม้ความจริงจะมีเหตุปัจจัยอื่นมากมาย หากแต่นี่มันเป็นแอนิเมชัน จึงไม่จำเป็นต้องเล่าไปไกลถึงขั้นนั้น ประเด็นของหนังที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง จึงเป็น ความเชื่อมั่น ความไว้ใจ ที่ถูกหยิบมาใช้เล่าอยู่สองสามครั้ง เป็นแอนิเมชันที่ดูสนุกก็ได้ ได้แง่มุมความคิดก็มี แถมยังมีกลิ่นไอที่ชวนภาคภูมิใจอีกด้วย

แน่นอนว่าด้วยความที่เนื้องเรื่องมีความแฟนตาซีผจญภัย ทำให้หนังเรื่องนี้ทำหน้าที่เล่าออกมาได้สนุกจัดๆ เข้าถึงได้ง่าย ทำให้หลายๆ ฉากในเรื่องรู้สึกอินได้อย่างง่ายดาย แต่ถึงอย่างนั้นบางฉากก็รู้สึกว่า มันน่าจะขยี้ได้มากกว่านี้อีกนิดดดนึงนะ ทำให้เกิดความเสียดายอยู่นิดหน่อย

 

Raya and the Last Dragon-1

 

ชื่อภาพยนตร์: Raya and the Last Dragon / รายากับมังกรตัวสุดท้าย

ผู้กำกับภาพยนตร์:  Don Hall, Carlos López Estrada, Paul Briggs, John Ripa

ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Qui Nguyen, Adele Lim

พากย์เสียงโดย: เคลลี่ มารี ทราน(ตัวละคร รายา), อควาฟินา (ตัวละคร มังกรซีซู) , เจมม่า ชาน (ตัวละคร นามารี)

ดนตรีประกอบ:

แนวภาพยนตร์ : การ์ตูนดิสนีย์, การผจญภัย, แอ็คชั่นต่อสู้, มิตรภาพ

ความยาว: 107 นาที

ปี: 2021

อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1

เรท: ไทย/ , USA/ รีวิวอนิเมะ

เข้าฉายวันที่ : 4 มีนาคม 2564

ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Walt Disney Animation Studios, Walt Disney Pictures

สามารถรับชมได้ที่ ดูอนิเมะออนไลน์

เผ่าทั้งห้าในดินแดนที่เคยเป็นคุมันตรา นั้นก็ถูกตั้งชื่อตามตำแหน่งอวัยวะต่างๆ ของลุ่มแม่น้ำที่คดเคี้ยวดังมังกร แต่ละเผ่าก็มิได้มีลักษณะที่แยกได้ว่ามาจากความเป็นชาติใดชาติหนึ่งในอาเซียน หากแต่เคล้าคนรวมอยู่ด้วยกัน ประหนึ่งต้องการจะบอกเล่าถึงความเกาะเกี่ยวของคนในภูมิภาคที่ไปมาหาสู่กันและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันอยู่เสมอ ราอาจจะรู้สึก เอ๊ะ กับบางสิ่งในเผ่านี้ว่ามันคุ้นเคยกับบ้านเรา

 

Raya and the Last Dragon-2

 

Raya and the Last Dragon รีวิวเนื้อเรื่อง

เล่าถึงนครคูมันตรา ที่เมื่อ 500 ปีก่อน เป็นนครที่มนุษย์และมังกรอยู่ด้วยกันอย่างมีสันติ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ปีศาจชื่อว่า ดรูน ได้แผ่ความชั่วร้ายออกมาทำร้ายมนุษย์ ทำให้เหล่ามังกรต้องต่อสู้เพื่อยับยั้งพลังมืดนี้ ซึ่งทำให้เหล่ามังกรเกือบทั้งหมดเสียสละตัวเองเพื่อช่วยโลกใบนี้ไว้

แต่แทนที่มนุษย์ จะปรองดองกัน กับกลายเป็นว่าทุกคน ก็เริ่มแบ่งพรรคแบ่งพวก จนทำให้นครคูมันตรา แตกแยกออกไปเป็น 5 เมืองใหญ่นับ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และแน่นอนว่า รายา ต้องทำภารกิจ กู้คืนความเป็นปึก แผ่นของนครนี้ ด้วยการออกตามหามังกร ตัวสุดท้ายในตำนานที่เธอเชื่อ เธอต้องออกตามล่า ชิ้นส่วนของมณีมังกร จากทุกเผ่าเพื่อรวมให้ เป็นหนึ่งเดียว หากทำได้ปีศาจ จะสลายไปและ ทุกเผ่าอาจจะรวมตัว กลับมาเป็นดินแดน คูมันตราได้อีกครั้ง แต่รายา จะฝ่ากำพงในใจของตัวเอง และเรียนรู้ที่จะไว้ใจศัตรูต่างเมือง ที่เคยทรยศเธอได้อย่างไร เธอจะอยู่รอดปลอดภัยไหม ต้องไปเอาใจช่วยเธอ ด้วยการตามไปดูใน ดูอนิเมะ

 

 

หนังการ์ตูนเรื่องนี้ มีฉากแอคชันมากมาย ผสมกับฉากผจญภัย เพราะตัวเองรายาต้องทั้งปกป้องมังกร เดินทางตามหาชิ้นส่วนของมณีมังกรที่กระจายอยู่ตามเผ่าต่างๆ ทั้งยังรวบรวมสมัครพรรคพวกที่มีทั้งคนและสัตว์ ทั้งผู้ใหญ่ วัยรุ่น และเด็กตัวกระเปี๊ยก เรื่องราวจึงไม่เพียงขยับไว หากยังมีความสนุกตื่นเต้นจากการเดินทางและการต่อสู้เข้ามาสลับอีกด้วย อีกทั้ง หนังการ์ตูนเรื่องนี้ ยังใส่ภาพของแผนที่ บอกชื่อเผ่า ตัวละครบอกเล่าลักษณะของแต่ละท้องที่ เป็นความพยายามที่จะช่วยให้ผู้ชมจดจำรายละเอียดของแต่ละเผ่าให้ได้มากที่สุด หนังจึงดำเนินไปข้างหน้าอย่างไม่มีหยุดหย่อน น้อยครั้งจะได้พักหายใจหายคอ

แน่นอนว่าด้วยความที่เนื้องเรื่องมีความแฟนตาซีผจญภัย ทำให้หนังเรื่องนี้ทำหน้าที่เล่าออกมาได้สนุกจัดๆ เข้าถึงได้ง่าย ทำให้หลายๆ ฉากในเรื่องรู้สึกอินได้อย่างง่ายดาย แต่ถึงอย่างนั้นบางฉากก็รู้สึกว่า มันน่าจะขยี้ได้มากกว่านี้อีกนิดดดนึงนะ ทำให้เกิดความเสียดายอยู่เนืองๆ

 

 

ส่วนจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ ถ้าให้ยกละก็น่าจะเป็นการผสมผสานความเป็นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เยอะมากกกกก เพราะจากที่ตามอ่านข้อมูลต่างๆ ข้อหนัง ก็ทำให้รู้ว่าทีมเบื้องหลังหลักๆ ของเรื่องนี้เป็นชาวเอเชียค่อนข้างเยอะ และได้กำหนดทิศทางต่างๆ ไว้อย่างเยอะแยะ รายามีทั้งแรงจูงใจที่ได้รับจากพ่อ ผู้ต้องการสร้างคุมันตราให้กลับมาเกิดใหม่ แต่อีกส่วนหนึ่งในใจของเธอ ก็คือการพาพ่อที่กลายเป็นหินให้กลับมาอีกครั้ง ผู้คนจึงพร้อมจะหลั่งรินน้ำตาให้กับเธอได้ไม่ยากเย็น

พล็อตเรื่องอาจจะดูไม่ฉีกแนวออกไปสักเท่าไหร่ ภารกิจตามหามังกรตัวสุดท้าย ใช้วิธีเดินทางไล่เก็บไอเท็มจนครบ และสร้างเป็นมังกรที่มีพลังสมบูรณ์ ก็เป็นอะไรที่เรียบง่ายและไม่จำเป็นต้องคาดเดาอะไรมากนัก เมื่อผสมกับกลิ่นไอความเป็นอาเซียนที่อบอวลอยู่ตลอดเรื่อง มันก็มีแรงชักจูงมากพอให้ผู้คนมีอารมณ์ร่วมในการเอาใจช่วยตัวละครอย่างรายา เอาใจช่วยรายาที่ ดูอนิเมะออนไลน์

 

ความรู้สึกหลังชม ประทับใจขั้นไหน

ด้านเนื้อเรื่อง แม้จะมีความเป็นสูตรสำเร็จสไตล์ดิสนีย์แต่ก็นำเอาข้อปัญหาที่เกิดขึ้นจริงอย่างการไม่ไว้ใจกันระหว่าประเทศเพื่อนบ้าน เพราะอดีตที่เคยขัดแย้งกัน การมองชาติพันธุ์ต่างๆ อย่างเหมารวม เหมือนที่รายามองเผ่าต่างๆ ผ่านทัศนคติที่ถูกหลอมมาจากอดีตมาใส่ไว้ ให้เราได้ฉุกคิดว่าแม้เราจะอยู่รวมกัน แต่น้อยครั้งที่เราจะรู้สึกว่าเราเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมกับชี้ให้เราเห็นความงามของความเหมือนในความต่าง ที่เราอาจจะลืมไปแล้วหรือไม่ได้คิดถึงมัน

ความฉลาดของดิสนีย์และทีมงานคือการผสมเอาวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ไม่ได้เนียนเป็นเนื้อเดียวจนแยกกันไม่ออกและกลายเป็นการเหมารวม แต่ทำให้คนดูสนุกกับการค้นหาวัฒนธรรมของตัวเองที่ซ่อนอยู่ในแอนิเมชั่น เหมือนเราที่ตื่นเต้นเล็กๆ ทุกครั้งที่ได้ยินชื่อ เบญจา น้อย ตุ๊กตุ๊ก ปรานี เห็นตัวละครกินของที่เราคุ้น ๆ กันตามตลาด สถาปัตยกรรมคล้ายคลึงบ้านเมืองของตัว แต่ขณะเดียวกันก็ชี้ได้ไม่ชัดว่าตัวร้ายหรือนางเอกมาจากประเทศไหนให้ใครรู้สึกระคายใจ ทุกอย่างที่ใส่เข้าไปค้นคว้ามาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญ เลือกแล้วอย่างระมัดระวังและให้เกียรติกันอย่างเต็มที่ รีวิวการ์ตูน

 

 

ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์เมืองแต่ละเมือง ฉากต่างๆ สถานที่ ฉากการต่อสู้ หรือแม้แต่อาหาร ที่ทีมรีเซิร์จทำหน้าที่ได้ละเอียดยิบ! เรียกว่าเก็บมันทุกดอกเลยก็ว่าได้ ซึ่งความละเอียดนี้กลายเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่ทำให้คนดูได้สังเกตว่าแต่ละอย่างในเรื่องที่เห็น มีการผสมผสานจากสิ่งไหนในประเทศไทย และประเทศอื่นๆ ในอาเซียนด้วย

เนื้อเรื่องก็ยังคงสไตล์ความเป็น Disney เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี เนื้อหามันก็หนังสูตรสำเร็จเนี่ยแหละ แลดูธรรมดาไม่หวือหวา ไม่ว้าว คาดเดาง่าย อาจจะเดาทางง่ายไปหน่อย คงเป็นเพราะการ์ตูนสำหรับเด็ก ก็เลยลงเนื้อเรื่องมาให้เข้าใจง่าย แถมมันยังดำเนินเรื่อง เร็วอีกต่างหาก แต่แน่นอนว่าความเป็น Disney มันก็ยังคงไม่ลืมที่จะสอดแทรกแง่คิดอีกด้วย

งานด้านภาพงดงามตามมาตรฐาน ทางด้านเพลงประกอบค่อนข้างเฉย ๆ ไม่ติดหูสักเท่าไหร่ แต่ที่ยังน่าชื่นชมคือการให้เสียงพากย์ตัวละครต่าง ๆ ดูเข้ากับแต่ละตัวละครด้วย

สรุปแล้วเรื่องนี้โดยรวมผมประทับใจมากครับ ทั้งงานภาพ งานเสียง ไปจนถึงพล๊อตเรื่อง ทำได้ดีในระดับของหนังการ์ตูน ดิสนี่ย์ ที่ควรจะเป็น หากจะหาเรื่องติสักเรื่องก็ คงจะได้แค่เรื่อง การผูกเรื่องที่เดาง่ายไปหน่อย แต่ก็แอบให้อภัยสัก 50 เปอร์เซ็น เพราะว่า เข้าแหละ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะหนังการ์ตูนเรื่องนี้ สร้างมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ดูเอาแค่ความบันเทิง เสพผลงานคลายสมองก็พอครับ แล้วสุดท้ายฝากผลงานการรีวิว การ์ตูน อนิเมะ ที่ รีวิวอนิเมะ