รีวิว Ben10
การ์ตูนในวัยเด็กของทุกคนที่เคยดูกันมา พวกคุณทั้งหลายอาจจะมีคำตอบในใจอยู่แล้วใช่ไหมครับ คราวที่แล้วผมรีวิวเรื่องโดเรม่อนไปอ่านเรื่องนั้นได้ที่ รีวิวอนิเมะ และวันนี้ ผมก็มีการ์ตูน อีกหนึ่งที่เป็นของฝั่งยุโรปกันบ้าง อย่างเรื่อง Ben 10 เป็นอีกการ์ตูนเรื่องหนึ่งของทาง การ์ตูน เน็ตเวิค ที่ครองใจเด็ก ๆ มาเป็นสิบๆปี รวมถึงผมด้วย Ben 10 ฉากครั้งแรกที่อเมริกา เมื่อ เดือนธันวาคม 2549 แล้วเข้าฉายในไทย พ.ศ.2550
จนกระทั่งทุกวันนี้ความดัง ก็ยังไม่เสื่อมคลาย คนยังพูดถึง ความนิยมของเด็กหนุ่ม คนที่ปกป้องเหล่าวายร้อยเอเลี่ยนจากต่างโลก ก็ยังไม่ลดน้อยลงไป นึกถึงสมัยช่วงที่เข้ามาฉาย ในไทยแรกๆ เด็กนักเรียน สะพายกระเป๋ารูป Ben 10 กันให้เกลื่อนโรงเรียน ปัจจุบันร้านอุปกรณ์ นักเรียนก็ยังมีกระเป๋าลาย Ben 10 จำหน่าย ซึ่งขายดีอยู่เช่นเดิม และแน่นอนว่าผมเองก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นเช่นกัน
ส่วนภาค เบ็นเท็นเอเลี่ยนฟอร์ซ คือภาคสอง เป็นเรื่องของเบ็น ที่ผ่านมา 5 ปีหลังจาก ภาคแรก ซึ่งในภาคนี้เบ็น อายุ 15 ปี ภาคเอเลี่ยนฟอร์ซนั้น ฉายครั้งแรก วันที่ 18 เดือน เมษายนปี 2008 และจบลงในปี 2010 เบ็นเท็นภาคเอเลี่ยนฟอร์ซ ผมชอบนะครับ
เพราะว่าไอเจ้าเบ็นเท็น มันโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ความคิดการกระทำต่าง จากภาคแรกมาก ไม่ได้เป็นเด็กนิสัยก้าวร้าว ห้าวตรีนเหมือนตอน 10 ขวบอีกต่อไปแล้ว
แถมภาคนี้ยังมีแฟน ตัวละครหลักที่ใช้เดินเรื่องของภาคนี้ก็จะมี เบ็น เกวน และเควิน (แฟนของเกวน) ซึ่งภาคนี้จะ ไม่มีปู่แม็กคอยอยู่ กับพวกหลานๆอีกแล้ว แต่ก็ไม่ได้หายไปเลยนะครับ คอยออกมาเสริมช่วยเหลือในบางตอน เป็นตัวประกอบแล้วนั่นแหละ 5555
ไม่เพียงความชื่นชอบที่ออกมาในรูปของเล่นของใช้ เบ็นเท็น แม้จะจบเรื่องไปแล้ว แต่ช่องการ์ตูนหลัก ๆ ก็ยังนำมาฉายวนอยู่ และยังได้รับความสนใจเช่นกัน แต่นั่นแหละหากเป็นช่องการ์ตูนทั่วไป เขาฉายทีละตอนสองตอน หงุดหงิดไม่ทันใจต้องมาดูผ่าน ดูอนิเมะ ซึ่งตอนนี้มี Ben 10 ตอนโต เบ็นเท็น ภาค 3 มาให้ดูกันแล้ว อยากดูตอนไหน อยากดูกี่ตอนก็ไปดูได้แล้วตลอดเวลา ที่ ดูการ์ตูน
ตั้งแต่ภาคแรก เสน่ห์ของ Ben 10 อยู่ที่พระเอก เบ็นจามิน เท็นนีย์สัน หรือ “เบ็น” ไอเด็กแสบอายุ 10 ขวบที่ โคตรจะไม่ได้เรื่อง แต่กลับได้ครอบครอง เครื่องมือสุดไฮเทค สุดยอดอาวุตของจักรวาลที่มีเพียงหนึ่งเดียว ชื่อ ออมนิทริกซ์ ลักษณะเป็นนาฬิกาข้อมือ ในนั้นบรรจุเอเลี่ยน ฝ่ายดีไว้ 10 ตัว 10 แบบ มีทั้ง ไฟ น้ำ แมลง พืช และอื่นๆอีกเพียบ ให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ แล้วแต่สถานการณ์เลยทีเดียว แบบโกงๆ เข้มๆ
ซึ่งเมื่อเลือกมาแล้ว เอเลี่ยนจะรวมตัวกับเบน เด็กไม่เอาถ่านก็จะกลายเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่มากความสามารถทันที แต่เวลารวมร่างมีจำกัด ฉะนั้นคนดูต้องลุ้นอยู่เสมอว่า เบนจะเอาชนะเอเลี่ยนฝ่ายร้ายได้ทันหรือไม่ ซึ่งบ่อยครั้ง ไม่ทันได้ทำอะไรก็หมดเวลาแล้ว ขีดกำจัดในการต่อสู้ นอกจากเวลาแล้ว ยังมีนิสัยไม่เอาถ่านของเบนเองด้วยที่มักตัดสินใจผิดพลาดเสมอ จน เกวนโดลิน เท็นนีย์สัน หรือ “เกวน” เด็กหญิงวัย 10 ขวบลูกพี่ลูกน้องของเบน ต้องเข้ามาช่วยเหลืออยู่บ่อยครั้ง
รีวิว Ben10 คือใคร การ์ตูนเรื่องนี้มีที่มาอย่างไร
ลักษณะของเบน ในเรื่อง Ben 10 เป็นตัวละครอุดมคติของเด็ก ๆ เกือบทุกคน คือ ไม่ต้องเก่งก็ได้ (มั้ง) ถ้ามีเครื่องมือสุดเจ๋ง ฉันก็เป็นยอดมนุษย์ได้ แต่นั่นแหละ แม้เบนจะมีเครื่องมือที่สุดยอด จนมนุษย์ต่างดาวจอมโหดหลายรายตามล่าเขาเพื่อแย่งชิง ‘ออมนิทริกซ์’ เขาก็ยังต้องมีความรับผิดชอบที่สูง เนื่องจากพลังอันยิ่งใหญ่ต้องมากับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง (เอะ! คุ้น ๆ) ฉะนั้นนอกจากปกป้องตัวเองแล้ว ภารกิจหลักของเบน ใน Ben 10 คือปกป้องโลก และผู้คนตัวเล็ก
เอเลี่ยนใน ออมนิทริกซ์ ของเบ็น เริ่มจากมี 10 ตัว แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็น 10,000 ตามพัฒนาการของตัวละคร การที่เบนเด็กเกรียนคนหนึ่งได้รับพลังอันยิ่งใหญ่ แม้ดูเหมือนง่าย แต่เป็นเรื่องง่ายที่ยากเอามาก ๆ
เพราะหากดูให้ดีแล้ว เบน คือ ผู้ถูกเลือก อย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าการ์ตูนสำหรับเด็กทำออกมาได้ดีมาก เพราะสมเหตุสมผลกับผู้ชมของช่วงวัยนั้น ทำให้คนดูเกิดคล้อยตามไปว่าตัวเองก็เหมือนเบ็น แล้วได้รับพลังวิเศษมา จากนั้นก็เรียนรู้ สิ่งที่เบ็นทำผิดพลาด และสามารถ เอามาปรับใช้ใน ชีวิตประจำวันได้
ปู่ของเบน และเกวน ชื่อ แม็กซ์เวลล์ เท็นนีย์สัน เป็นอดีตช่างประปา แล้วเกี่ยวอะไรกับเอเลี่ยน? เกี่ยวเพราะนี่คือรหัสลับใช้เรียกหน่วยปราบปรามเอเลี่ยนบุกโลก โดยปู่เคยอธิบายคำนี้ว่า “เอเลี่ยนก็เหมือนของเน่าของเสียที่อุดตันในท่อส่งน้ำ แล้วต้องรีบไปงัดออกเพื่อให้มันไหลต่อ’ และที่สำคัญปู่ของเบน คือ เจ้าหน้าที่ที่ปราบตัวร้ายระดับหัวหน้าได้
ในภาค alien force เบ็นได้เลิกใช้ ออมิทิก ไปแล้วรอบนึง แต่ดูเหมือนว่าโลกจะต้องการเขาให้ใช้ ออมิทิก อีกครั้งเขาก็เลยต้องกลับมา อย่างที่บอกภาค alien force ต่างจากภาคแรกมาก ในการแปลงร่างของ เบ็น การต่อสู้และความคิดเขาเก่งและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วก็ฉลาดดีด้วย คือทุกอย่างของเบ็นภาคนี้ดูดีขึ้นไปหมดเลย
ผมชอบภาคนี้ตรง ปรับโทนสีแล้วอนิเมชั่นให้มันดูดาร์ค ขึ้นดูสนุกและน่าดู ส่วนตัวแล้วผมก็ชอบภาคนี้อยู่นะครับ แต่ภาคนี้มันมีตอนประมาณ 46 ตอนเฉลี่ยน่าจะตอนละ 22 นาทีเหมือนเดิมนะครับ ใช้เวลาในการดูรวมทั้งหมด 16 ชั่วโมง ภาคนี้ก็จะมีตัวร้ายเก่าๆที่ยังออกมาเหมือนเดิม แต่ไม่ต้องห่วงครับ ถึงตอนจะเยอะแค่ไหน ก็สามารถไปดูได้ง่ายๆ ฟรีๆ ไม่มีโฆษณา ที่ ดูการ์ตูนอออนไลน์
alien force ก็มีอะไรใหม่ๆเพิ่มเข้ามาเยอะพอสมควรอย่างเช่นเควินก็เข้ามาเป็นพวกเบ็นแถมยังเป็นแฟนกับ เกว็น อีกซะด้วย แล้วเบ็นยังมีแฟนที่ชื่อว่าจูลี่ และตัวร้ายใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาอย่างเช่นhybrid ถ้าใครไม่ดู alien force ภาคนี้ผมว่าคงดูภาคต่อไปไม่รู้เรื่องแน่ๆเพราะว่ามันต่อจากภาค alien force แบบเนื้อเรื่องเดียวกันเลย หรือจะเรียกว่าคือเนื้อเรื่องหลักเลยก็ว่าได้ถ้าไม่ดูภาคนี้ก็คงจะรู้ภาคต่อต่อไปไม่อินหรือว่าไม่สนุกกับมันเลย ผมก็ขอจบการรีวิวของภาค alien force ไว้แค่นี้แหละครับ
การ์ตูนเรื่องนี้สนุกไหม น่าดูสมกับเป็นตำนานจริงรึเปล่า
จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นชัดว่า เบน คือ ผู้ถูกเลือก กล่าวอย่างนี้อาจเป็นการทำลายความฝันเด็ก ๆ แต่ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แม้เบนจะมีเชื้อสายของผู้กำราบเหล่าร้าย ทว่าหากจิตใจไม่ดี ไม่มีใจเกื้อการุณย์ ‘ออมนิทริกซ์’ ย่อมไม่เลือกเขา ฉะนั้นหากใครอยากถูกเลือก และต้องการเป็นฮีโร่ ต้องมีสิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐาน
เบนนั้นถือเป็นเ ด็กไม่เอาไหน ถ้าว่ากันตรงๆ เอาแต่ใจ รุ่มร่าม แม้จะกลายร่าง เป็นเอเลี่ยนยอดฝีมือ ก็มักทำพลาดง่ายๆ จึงต้องมีเกวน ลูกพี่ลูกน้องของเบ็น คอยช่วยเหลือ
เรื่องนี่ก็แสดงให้เห็นว่า แม้จะเก่งกาจเพียงไร ยังไงก็ต้องมีผู้ช่วย และการทำงานเป็นทีม ย่อมมอบผลลัพธ์ที่ดีเสมอ แม้คนนั้นจะไม่มีพลัง ช่วงแรก เกวนไม่มีพลังวิเศษ ส่วนภาคสาม มีแล้ว แบบโกงๆ เท่านั้นแหละ สนุกเลย แต่ก็สามารถใช้สติ ปัญญาเข้าแก้ปัญหา และช่วยเหลือเพื่อนๆ ให้ผ่านพ้นปัญหามาได้
ความสนุกของ Ben 10 อีกอย่างคือ การดำเนินเรื่องที่กระชับ รวดเร็ว ปัญหาเหมือนจะต้องใช้เวลาในการ์ตูนนาน แต่กลายเป็นว่าเบ็นแก้ได้ทันท่วงที ถ้าผู้ใหญ่ดูอาจจะขัดใจเล็ก ๆ เช่น เบ็นกำลังจะถูกจัดการ ออมนิทริกซ์ ก็เพิ่งหมดเวลา คนดูลุ้นตัวเกร็งว่าใครจะช่วยเบนได้ กลายเป็นว่า ออมนิทริกซ์ ใช้งานได้เฉยเลย เรียกได้ว่านี่แหละครับ ฮีโร่ตัวจริง แล้วเด็กๆจะมีประโยคติดปากอยู่นั่นก็คือ ได้เวลาฮีโร่ หากชอบเบ็นเท็น แล้วอยากให้ผมเขียนเรื่องนี้อีกในส่วนอื่น ตามที่ รีวิวอนิเมะ