รีวิว โดเรม่อน

การ์ตูนในวัยเด็ก ที่ชวนคิดถึงมาก และผมมั่นใจ ว่าทุกคนคงจะเคยดู แล้วรู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นก็คือเรื่องโดเรม่อน การ์ตูนขวัญใจ คนทั้งโลก โดเรม่อน ที่ถูกสร้างสรรค์ และเป็นที่รู้จักของคนทั่ว ยาวนานถึง 50 ปีแล้ว แม้จะเปลี่ยนผ่านยุคสมัย แต่ก็ยังคงเป็นการ์ตูนขวัญใจของคน จากรุ่นสู่รุ่น ความนิยมยังไม่เสื่อมคลายเลย ไม่ว่าใครๆก็ต้องเคยดูแล้วรู้จักโดเรม่อนกันทั้งนั้น จึงทำมาให้เกิดการสร้าง เดอะมูฟวี่มากมาย เมื่อโนบิตะ พบตุ๊กตาที่เขาเคยเล่น สมัยเป็นเด็กอยู่ในห้อง ทำให้โนบิตะเกิดนึกถึงคุณย่าที่สุดแสนใจดี จึงได้ตัดสินใจชักชวนโดเรม่อน เดินทางย้อนเวลาไปในอดีต เรื่องราว จะเป็นอย่างไรต่อไปต้องมา ติดตามชมกันให้ไว ภาพคมชัด ชวนย้อนวันวาน ของความคลาสสิก ที่ ดูการ์ตูน

เมื่อโนบิตะพบตุ๊กตาหมี ตัวเก่าที่เขาเคย เล่นสมัยเด็กอยู่ในห้อง ทำให้เขานึกถึงคุณย่าที่แสนใจดี พร้อมตัดสินใจชวนแมวอ้วนสีฟ้า ย้อนเวลากลับไปในอดีต เพื่อพบกับคุณย่าอีกครั้ง จนเมื่อคุณย่าเอ่ยปากว่า อยากจะพบกับเจ้าสาวของโนบิตะ ทีนี้เป็นเรื่องสิครับ สองคู่หูจึงเดินทางไป ในวันแต่งงานที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก่อนจะพบว่าโนบิตะ ในวัยผู้ใหญ่ได้หนีหาย ออกจากงานแต่งงาน ของเขากับชิซึกะไป โนบิตะและโดเรม่อน จึงต้องช่วยกันตามหา เพื่อทำให้ความฝัน ของคุณย่าเป็นจริง

Doraemon: Nobita’s New Dinosaur เล่าเรื่องราวของโนบิตะกับไดโนเสาร์ตัวใหม่คู่แฝดสีเขียวและสีชมพู ที่เขาได้ตั้งชื่อว่า คิว กับ มิว โดยทั้งสองตัวมีปีกบินได้ด้วย โนบิตะ และ โดราเอม่อน รวมทั้งผองเพื่อน พากันกลับไปยังยุคไดโนเสาร์ เพื่อผจญภัยและช่วยเหลือไดโนเสาร์ให้รอดพ้นจากยุคแห่งการทำลายล้างโลกและภัยอุกกาบาต รีวิวอนิเมะ

 

รีวิว โดเรม่อน-2

 

ที่อาจจะเป็นการขีดอนาคตให้กับชะตากรรมของโลกในปัจจุบัน ที่ดันไปเจอก้อนหินประหลาด ที่ดูไปดูมาก็เหมือนจะเป็นไข่ไดโนเสาร์ซะงั้น เค้าจึงไปเอาผ้าคลุมกาล เวลามาห่อหุ้มไว้ เพื่อดูว่ามันเป็น ไข่ไดโนเสาร์จริงๆปะว้า

และสุดท้ายไข่ใบนี้ก็ฟักออกมาเป้นไดโนเสาร์สายพันธ์ใหม่ โดยเป็นไข่แฝด โดยตัวสีชมพู ชื่อ มิว มีลักษณะกระชับ กระเฉงกินเก่ง บินเก่ง อ้อนเก่ง ใช้เงินดุึมาก ตรงตามลักษณะของไดโนเสาร์ ที่ดีมีการันตีโดยแมวอ้วนสีฟ้ารับรอง ส่วนอีกตัวสีเขียวชื่อ คิว ตัวเล็กๆ ขี้กลัว แถมยังบินไม่ได้อีกต่างหาก คือไม่เก่งอะไรเลย ไม่มีอะไรดี เหมือนโนบิตะ ซึ่งโนบิตะนึกถึงตัวเองขึ้นมาเลย ซึ่งเจ้าคิวนี่แหละ จะทำให้พวกเราเสียน้ำตาในตอนท้าย เตรียมตัวไว้เถอะ ไม่รอดน้ำตาท่วมจอ แน่นอน ทำได้ดีมากสำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ ดูอนิเมะ

รีวิว โดเรม่อน เดอะมูฟวี่ภาคนี้ เนื้อเรื่องเป็นอย่างไร

เรียกได้ว่าเป็นวาระที่น่ายินดีของแฟน ๆ โดราเอมอนทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกครับ เพราะว่าการ์ตูนขวัญใจหนู ๆ น้อง ๆ และผู้ใหญ่ที่อ่อนนุ่ม จิตใจดี เพราะหนังการ์ตูนเรื่องนี้มีความฟิลกู๊ดในตัวมันอยู่  เรื่องนี้ มีอายุครบรอบ 50 ปีพอดิบพอดี เรียกได้ว่าเป็นการ์ตูนในตำนานที่อยู่ร่วมสมัยมาอย่างยาวนานหลายรุ่น และการผจญภัยของโดเรมอน โนบิตะ และเหล่าผองเพื่อนก็ยังคงโลดแล่นต่อไปเรื่อย ๆ ดูอนิเมะออนไลน์

หลังจากที่ โนบิตะเพื่อนกันตลอดไปภาคแรก เวลาก็ผ่านมาถึง 6 ปี ซึ่งจะว่าไป ก็ต้องบอกว่าจบได้สมบูรณ์ และลงตัวแล้ว แต่ด้วยกระแส ตอบรับที่ดีของอนิเมะ 3 มิติชุดนี้ ทำให้ผู้กำกับ ยามาซากิ ทาเคชิ และ ยางิ ยาอิจิ กลับมาสร้างความซาบซึ้งตราตรึงนี้ต่อ ซึ่งจากที่ดูมาแล้วทั้ง 2 ภาค ก็บอกได้เลยว่าสิ่งที่โดราเอมอน

เพื่อนกันตลอดไป2 ต่างจากโดราเอมอนในภาคผจญภัยแบบปกติที่มีออกฉายแทบทุกปีก็คือกลุ่มคนดู เนื่องจากแอนิเมชั่นโดราเอมอนในภาคปกติจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนดูที่เป็นเด็กด้วยฉากผจญภัยสุดแฟนตาซี หรือ การได้พบเจอเพื่อนใหม่ ๆ ของโนบิตะ

แต่การ์ตูนชุด Stand by me doraemon นั้นจะเน้นหนักไปที่กลุ่มคนที่ เคยโตมากับการ์ตูนโดเรม่อน หรือผู้ใหญ่เสียมากกว่า ทั้งฉากผจญภัยต่าง ๆ ที่ไม่ได้เน้นความแฟนตาซี เหมือนในภาคปกติ และยังมีความดราม่าในเรื่องของความสัมพันธ์ของตัวละคร ที่คนดูต้องอาศัยความเข้าใจมากยิ่งขึ้น รวมถึงเหตุผลต่าง ๆ ที่ทำให้ตัวละครออกเดินทางไปตามเวลาต่าง ๆ มันก็ดูมีเหตุมีผลมากกว่าโดเรม่อน ในภาคปกติทั่วไป ซึ่งน่าจะเหมาะกับเด็กที่โตแล้ว ไม่ก็ผู้ใหญ่ไปเลยที่คุ้นชินกับยุคนั้น

 

 

แม้ว่าผู้ให้ต้นกำเนิดโดราเอมอนอย่างอาจารย์ฟูจิโกะ เอฟ. ฟูจิโอะ จะจากเราไปนานแสนนานแล้ว ว่ากันตามจริงแล้วต้องบอกก่อนว่าความแตกต่างสำคัญระหว่าง Stand by Me Doraemon กับแอนิเมชันโดราเอมอนที่เป็นภาคการผจญภัยต่าง ๆ ซึ่งมีออกฉายมาแทบทุกปีนั้น หลัก ๆ คือกลุ่มผู้ชม เพราะในขณะที่แอนิเมชัน 2 มิติจะจับกลุ่มเด็กจริง ๆ ที่เน้นเรื่องของฉากการผจญภัยหวือหวา มีเพื่อนใหม่ของโนบิตะที่น่าสนใจซึ่งมักไม่ใช่คน เรียกว่าอัดแฟนตาซีจัดเต็มกว่า

หลายคนอาจจะคุ้นๆ ว่าเนื้อหาของภาคนี้เหมือนกับเคยดูมาแล้ว แต่อันที่จริงเป็นหนังคนละเรื่อง แต่โครงเรื่องอาจจะใกล้เคียงกับภาคไดโนเสาร์ของโนบิตะที่เคยสร้างมาก่อน สำหรับในภาคนี้ยังถือว่าค่อนข้างมีความแข็งแรงของเรื่องราวและหนักแน่นในธีมของหนัง รวมทั้งยังโดดเด่นในการสอดแทรกประเด็นสาระความรู้ที่เหมาะสมกับกลุ่มคนดูของเด็กๆ ได้เป็นอย่างดี

เป็นอีกเสน่ห์ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่หนังทำได้ค่อนข้างดี แม้ว่าโครงเรื่องจะดูง่ายๆ เข้ากับกลุ่มคนดูได้ดี อาจจะมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่เต็มไปหมด แต่หนังก็ยังถูกเสริมด้วยความแข็งแรงของคาแรกเตอร์ตัวละครที่สั่งสมบารมีเอาไว้มาอย่างยาวนาน โดราเอมอน หรือ โนบิตะ ยังคงเป็นตัวละครหลักที่มีความแข็งแกร่งในเส้นเรื่อง ทำให้คนดูสามารถคล้อยตามได้อย่างเพลิดเพลิน

ตัวละครในเรื่องถ้าไม่นับโนบิตะ แต่ละตัวก็มีพื้นที่และซีนของตัวเอง ไจแอนท์ ซูนิโอะ ก็ยังคงเป็นคู่หูที่เวลาเยาะเย้ยถากถางโนบิตะ นี่น่าลากมาตบกลางสี่แยกเหม่งจ๋ายเหมือนเดิม แต่พอเวลาทำดีนี่ต้องบอกว่าพวกเค้าเป็นเพื่อนที่น่าคบหามากๆ ถึงไหนถึงกัน ไม่เคยปริปากบ่นอะไรเลย ส่วนโดราเอม่อนภาคนี้ซีนน้อยไปหน่อยนึง แต่ก็ได้ความฮาตรงที่ชอบหยิบของผิด

 

 

โดยเฉพาะ ตั๊กแกตนทอด ไม่รู้อีเด็กข้างผมมันติดใจอะไรกับมุขนี้ ม่อนเล่นมุขนี้อยู่ 2-3 รอบ มันก็ทำให้พวกเขาเล่นใหญ่กันซ้ำไปซ้ำมา ส่วน ชิซุกะ ผมยังยืนยันคำเดิมว่านี่คือ ตัวการ์ตู นที่ตอแหลสุดในยุค 90 ร้ายเงียบ แรงเงียบ อ่อยโนบิตะแบบเงียบๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นางน่ารักมากจริงๆ โดยเฉพาะตอนเข้าคู่กับ มิว นี่โคตรเข้าขากันเลย ด้านโนบิตะ ภาคนี้ต้องบอกว่าพี่แกยังคง น่าตบในตอนต้นและเป็นพระเอกในตอนจบเหมือนเดิมนั่นแหละ เด็กๆไปดูนี่น่าจะได้ความหึกเหิมกลับมาแน่นอน

ทั้งด้วยเรื่องของฉากการผจญภัยที่จะไม่แฟนตาซีเท่า ดูมีความดราม่าเรื่องความสัมพันธ์ที่ชัดเจนกว่าและต้องอาศัยความเข้าใจมากขึ้น นอกจากนี้มุกการเล่าเรื่องก็ยังสามารถใส่ความซับซ้อนได้มากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการย้อนเวลาแก้ไขอดีต-อนาคตไปมา ซึ่งที่ว่ามามันคือหนังแอนิเมชันสำหรับเด็กโตจนถึงวัยผู้ใหญ่ดูนั่นเอง

โดยเฉพาะเสน่ห์อันน่ารักของเจ้าไดโนเสาร์พันธุ์ใหม่ ที่มีชื่อว่า คิว กับ มิว นับว่าเป็นตัวละครใหม่ที่ทำให้คนดูต้องหลงรักและยังสอดแทรกสาระความรู้เอาไว้ กลายเป็นปมที่เฉลยในตอนท้ายที่ทำให้รู้สึกประทับใจและอิ่มเอมใจตามไปด้วย หนังยังคงแทรกคติสอนใจต่างๆ เอาไว้มากมาย เป็นหนังที่ช่วยสอนเด็กๆ กลุ่มคนดูหนังเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งประเด็นแนวคิดและข้อแนะนำการใช้ชีวิต ประเด็นหลายๆ สิ่งของหนังยังคงสะกิดใจและกระตุ้นอารมณ์คนดูได้ถึงใจเช่นเดิม นี่จึงเป็นหนังที่เหมาะกับทุกกลุ่มคนดู ไม่ใช่แค่เพียงเป็นหนังที่เหมาะกับเด็กเท่านั้น

 

รีวิว โดเรม่อน-3

 

สิ่งที่ชอบสำหรับหนังการ์ตูนเรื่องนี้

ทีมพากย์ไทยของการ์ตูนเรื่องนี้ ทั้งยังสร้างความประทับใจไม่รู้ลืม หากผู้ใหญ่ได้เข้าไปดูหนังเรื่องนี้ก็รู้สึกเหมือนจะย้อนกลับไปสู่วันวาน เพราะยังนำทีมโดย “ป้านิด-ศันสนีย์ วัฒนานุกล” กับ “ป้าติ๋ม-ฉันทนา ธาราจันทร์” กลับมาให้เสียง โนติบะ กับ โดราเอมอน อีกครั้ง รวมทั้งยังได้ทีมพากย์เสียงที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง

อีกส่วนหนึ่งที่ผมรู้สึกชอบมากและรู้สึกว่าหนังมันสร้างบทมาได้แกร่งมากในภาคนี้ก็คือ ความสัมพันธ์ของ โนบิตะ กับ เจ้าคิว ไดโนเสาร์สายลูซเซอร์ ที่ทำอะไรก็ไม่ประสบความสำเร็จ คิวพยายามบินแค่ไหนก็บินไม่ได้ ส่วนโนบิตะก็พยายาม้วนตัวกับราวเหล็กในวิชาพละ ซึ่งก็ทำไม่ได้เหมือนกัน หนังมันปูเรื่องพวกนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มแล้วมา ปล่อยความรู้สึกในตอนท้ายที่ต้องบอกว่า ยอดเยี่ยม และอิ่มมากๆ โดยเฉพาะตอนฉากที่ คิวบินได้นี่แทบอยากจะลุกกระโดดปรบมือ ส่วนของวิเศษในเรื่องมีทั้งของเก่าและของใหม่ อีกทั้งยังเก็บรายละเอียดต่างๆได้ดี มีจุดเซอไพรส์เล็กๆ แต่ถ้าสังเกตและดูโดราเอม่อนมาเยอะก็น่าจะพอเดากันออก

คือเนื้อเรื่องที่ดูมี ความเชื่อมโยงกับภาคแรก อย่างรู้สึกได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึง เพราะนึกว่าจะแยกกันจบแบบเวอร์ชั่นผจญภัยทั่ว ๆ ไป และแต่ละตอนนั้นก็ไม่ได้เชื่อมโยงถึงกัน แถวด้วยระยะ เวลาที่ทิ้งห่างมานานถึง 6 ปีนั้น ก็มากพอที่จะทำให้คนดูลืมเนื้อเรื่องบางส่วนไปแล้ว ซึ่งคิดว่าทางผู้กำกับ คงอยากให้หนังชุดนี้มีความเชื่อมโยงกันและเป็นหนังที่บรรดาแฟน ๆ โดราเอมอนต้องเก็บสะสมอย่างแน่นอน

 

รีวิว โดเรม่อน-2

 

ส่วนหนึ่งผมแอบเสียดาย ความเป็น Sci-Fi หรือ ในเนื้อหาของ โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ภาคเก่า ๆ นะ คือมันมักจะมีจุดที่ทำให้แปลกใจ หรือ ขบคิดได้ แต่เดอะมูฟวี่ในยุคหลัง ๆ กลับกลายเป็นการ์ตูนเด็ก เดินเรื่องตามสูตร คาดเดาได้ไม่ยาก แต่ดันต่างจากหนังเด็ก ตรงที่เลือกจะเดินเรื่องยาวกว่า

ยังไงก็ตามถ้านับว่าดูเอาความเพลิดเพลิน ก็ถือว่าหนังเรื่องนี้ทำออกมาได้โอเค แม้พลอตจะเก่า แต่ก็มีประเด็นที่มาสอน น้อง ๆ หนู ๆ ให้ผู้ปกครองได้พาลูกเข้าไปดูในโรงกัน ช่วงท้ายมีประเด็นที่ดูน่าสนใจเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ แต่ก็แอบคิดว่า มันดูสูตรไปนิด

การพัฒนาตัวละครโนบิตะ ตลอดทั้งเรื่องเราก็จะยังคงเห็นว่าโนบิตะ ก็ยังเป็นโนบิตะที่เราดูมาตั้งแต่เด็ก ความงี้เง่างอแงที่ถูกเพื่อนรังแกแล้ววิ่งมาหาโดราเอมอนให้คอยช่วย ก็ยังมีให้เห็นเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าจะเข้าใจดีว่ามันเป็นบุคลิกเฉพาะของตัวละคร แต่ก็อยากให้มีการพัฒนาตัวละครไปในมุมอื่น ๆ ดูบ้างเพื่อให้คนดูมีความรู้สึกรักตัวละครมากยิ่งขึ้น

โดราเอมอน เดอะ มูฟวี่ ที่ยังประสบความสำเร็จในประเด็นอย่างเช่นเคย ด้วยเนื้อหาที่หนักแน่นและตรงประเด็นอย่างดี จึงตอกย้ำความคลาสสิกตลอด 50 ปีของการ์ตูนชุดนี้ที่ยังมีมนต์ขลังที่ยังได้รับความนิยมจากรุ่นสู่รุ่น กลายเป็นหนึ่งในการ์ตูนที่น่าจะยังได้รับความนิยมต่อเนื่องไปอีกนาน รีวิวการ์ตูน